สภาทนายความฯ จัดอบรมปฏิรูปทนายความอาสา ทนายความขอแรง และที่ปรึกษากฎหมายเด็กและเยาวชน ปี 2568 (ภาค 8) จังหวัดนครศรีธรรมราช

เมื่อวันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. ที่ ห้องแก้วกัลยา โรงแรมเมืองลิกอร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช : ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมโครงการปฏิรูปทนายความอาสา ทนายความขอแรง และที่ปรึกษากฎหมายของเด็กหรือเยาวชน ประจำปีงบประมาณ 2568

 

โดยมี นายคำนวณ โสมนิล ประธานสภาทนายความจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต้อนรับ นายยุทธนา เนติศุภชีวิน กรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 8 กล่าวรายงาน นายไพบูลย์ แย้มเอม อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ เป็นผู้ดำเนินรายการ และได้รับเกียรติจาก นายโอฬาร กุลวิจิตร กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 9 และนายวัชรินทร์ เพ็ชรัตน์ ประธานสภาทนายความจังหวัดทุ่งสง

นอกจากนี้ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ “จริยธรรมและมรรยาททนายความของทนายความอาสา” และ “กฎหมายเกี่ยวกับการเช่าซื้อ ค้ำประกัน สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิต” นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ รองเลขาธิการสภาทนายความ บรรยายหัวข้อ “หลักเกณฑ์การทำหน้าที่ทนายความอาสาและที่ปรึกษากฎหมายเด็กและเยาวชน” และ “กฎหมายเกี่ยวกับการปราบปรามธุรกรรมทางเทคโนโลยี การฉ้อโกง ฉ้อโกงประชาชน การฟอกเงิน” นายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ บรรยายหัวข้อ “การคุ้มครองสิทธิผู้ต้องหาในคดีอาญา การทำหน้าที่ทนายความขอแรงและที่ปรึกษากฎหมายของเด็กและเยาวชน” ซึ่งมีทนายความในจังหวัดนครศรีธรรมราชและทนายความภาค 8 เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้จำนวนมาก

 

อบรมโครงการปฏิรูปทนายความอาสาฯ ประจำปี พ.ศ. 2568 📌 จังหวัดสมุทรปราการ (ฟรี)

⚖️ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ⚖️

เปิดอบรม【 ฟรี 】🚩

🌟 โครงการปฏิรูปทนายความอาสาฯ ประจำปี พ.ศ. 2568

📌 จังหวัดสมุทรปราการ

 

— เชิญพบกับ —

🔶 ดร.วิเชียร ชุบไธสง

นายกสภาทนายความ

 

🔶 นายวีรศักดิ์ โชติวานิช

อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ / รองเลขาธิการ สภาทนายความ

 

🔶 นายสัญญาภัชระ สามารถ

อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ สภาทนายความ

 

🔶 นายไพบูลย์ แย้มเอม

อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ สภาทนายความ

 

🔶 นายฉัตรประพล แย้มเพริศศรี

กรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 1

 

🔶 นายวิรยุทธ ชูสุวรรณ

ประธานสภาทนายความจังหวัดสมุทรปราการ

 

🌟 คุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการอบรม 🌟

1. ประกอบวิชาชีพทนายความตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528

2. ไม่เคยต้องคำสั่งให้ลงโทษถึงที่สุด ตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528

3. เป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์และมีบุคลิกภาพดี

4. มีความรับผิดชอบและอุทิศตนเพื่อสังคม

 

— วันที่อบรม —

📚 วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม 2568

⏰ เวลา 07.45 – 16.30 น.

📍 ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลบางปู อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

–––

📝 สมัครผ่านระบบ Google Forms

🌎 Link ลงทะเบียน : https://forms.gle/QcEBBqBqBT5WYaEV6

🔴 รับสมัครวันนี้ ถึงวันอังคารที่ 13 พฤษภาคม 2568 ( รับจำนวน 250 คน )

✅ ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์อบรม วันพุธที่ 14 พฤษภาคม 2568

–––

☎️สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

โทร. 0 2522 7124-27, 0 2522 7143-47 ต่อ 131, 133, 134

อีเมล์ : legalaid.lct@gmail.com

☎ ติดต่อสอบถาม คุณวารินทร์ โทร. 08 3096 5214

⚖_________________⚖

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3618.ระยะเวลาการบังคับคดีมีการทุเลาการบังคับคดี

คำพิพากษาฏีกาที่ 1819/2567 (เล่ม 8 หน้า 1730) ว. ผู้ถือหุ้นของบริษัทโจทก์ฟ้อง น. ในฐานะผู้ชำระบัญชีของโจทก์ว่า ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีของโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย คดีถึงที่สุด โดยศาลมีคำพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี และให้ ด. เป็นผู้ชำระบัญชีต่อไป ดังนี้ ถือว่าบริษัทโจทก์ยังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี ผู้ชำระบัญชีของโจทก์ยังมีอำนาจแต่งตั้งทนายโจทก์เพื่อดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาแก่จำเลยตาม ป.พ.พ. มาตรา 1250

ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดี ที่จำเลยฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ออกจากสารบบความของศาลฎีกา เนื่องจากโจทก์สิ้นสภาพนิติบุคคลและไม่มีอำนาจดำเนินคดีกับจำเลยต่อไป มีผลให้คดีระหว่างโจทก์และจำเลยยุติไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ระยะเวลาในการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ของโจทก์ต้องเริ่มนับแต่วันมีคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลฎีกาซึ่งเป็นศาลชั้นที่สุด คือวันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดอ่านคำสั่งของศาลฎีกาโดยถือว่า คู่ความทราบผลคดีแล้วเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2552 หาใช่นับแต่วันที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษาไม่ โจทก์ขอออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 อันเป็นการร้องขอให้บังคับคดีภายในสิบปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 274 ไม่มีเหตุให้เพิกถอนการบังคับคดี แก่จำเลย

(หมายเหตุ 1 คดีนี้ จำเลยยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ โดยได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีในชั้นอุทธรณ์ การร้องขอให้บังคับคดีนับแต่วันมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นจึงไม่อาจเกิดขึ้นได้

2 ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2548 จำเลยยื่นฎีกาโดยยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา

3 ศาลฎีกามีคำสั่งลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2552 ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความศาลฎีกา โดยมิได้สั่งคำขอทุเลาการบังคับคดีของจำเลยในชั้นอุทธรณ์

4 วันที่ 16 เมษายน 2552 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดอ่านคำสั่งศาลฎีกา ถือว่าจำเลยทราบผลคดีในวันดังกล่าว หาใช่นับแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2548 ซึ่งเป็นวันที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษา

5 วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลย ถือว่าโจทก์ร้องขอให้บังคับคดีภายในสิบปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งตามบทบัญญัติของกฎหมาย)

(หลักกฎหมาย ป.พ.พ.มาตรา 1250 ป.วิ.พ.มาตรา 274)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

 

รับสมัครอบรมเชิงปฏิบัติการ 【 ฟรี โครงการทนายพี่เลี้ยง รุ่นที่ 27

📢 ประกาศสถาบันพัฒนาวิชาชีพทนายความ สภาทนายความ 📢

⚖️ รับสมัครอบรมเชิงปฏิบัติการ 【 ฟรี 】🚩⚖️

🌟 โครงการทนายพี่เลี้ยง รุ่นที่ 27

🔻 เรื่อง 🔻

👉” การเพิ่มทักษะการว่าความให้ทนายความใหม่ การดำเนินคดี บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคล ศิลปะในการซักถาม ถามค้าน ถามติง การต่อสู้คดี การสอบข้อเท็จจริง และการจัดทำเอกสารต่าง ๆ ”

📌 เหมาะสำหรับทนายความใหม่ และผู้ที่ต้องการความรู้และประสบการณ์เพิ่มเติม

 

—- เชิญพบกับ—-

🔶ดร.วิเชียร ชุบไธสง

นายกสภาทนายความ

 

🔶ดร.วิรัลพัชร เวธทาวริทธิ์ธร

อุปนายกฝ่ายวิชาการ

สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

 

🔶วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ

คณะกรรมการฝ่ายวิชาการ และคณะกรรมการโครงการทนายพี่เลี้ยง ปี 2565 – 2568

 

📆วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 2568

⏱ เวลา 09.00 – 16.00 น.

📍 ณ ห้องประชุมชั้น 4 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ และห้องศาลจำลอง

 

⭐ รับจำนวน 100 คน

🌎 Link ลงทะเบียน: https://forms.gle/vK2suTgQREcJmkvp9

 

  • ☎️ติดต่อสอบถาม คุณพิมพ์ฉวี และคุณจิดาภา 06 4291 4640

⚖_______________⚖

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3617.ธนาคารไม่งดการบังคับคดีตามบันทึกข้อตกลงปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เป็นการกระทำละเมิดต่อลูกหนี้ตามคำพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2567 การที่โจทก์และจำเลยทำบันทึกข้อตกลงปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อผ่อนปรนการชำระหนี้กันเป็นไปเพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย กล่าวคือ โจทก์ได้รับการผ่อนเวลาชำระหนี้และไม่ต้องกังวลว่าจำเลยจะดำเนินการบังคับคดีแก่ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของโจทก์ระหว่างที่โจทก์ปฏิบัติตามข้อตกลงนั้น ส่วนจำเลยก็มีทางได้รับชำระหนี้โดยไม่จำต้องดำเนินการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของโจทก์ แสดงให้เห็นว่าโจทก์ประสงค์ให้จำเลยงดการบังคับแก่โจทก์ไว้ก่อนนั่นเอง จำเลยจึงต้องดำเนินการงดการบังคับคดี และการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะงดการบังคับคดีสำหรับกรณีที่พิพาทนี้ได้ย่อมต้องบังคับตาม ป.วิ.พ. มาตรา 289 (3) กล่าวคือ จำเลยต้องแจ้งเป็นหนังสือไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ของโจทก์ไว้โดยได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากโจทก์ ซึ่งโจทก์ได้ทำหนังสือยินยอมให้งดการขายทอดตลาดมอบไว้แก่พนักงานของจำเลยแล้ว การที่จำเลยไม่ได้ดำเนินการดังกล่าวต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีจนเป็นเหตุให้มีการขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของโจทก์ไป เป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อและทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายอันเป็นการทำละเมิดและต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ ส่วนโจทก์ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีจะไปดูแลการขายทอดตลาดหรือไม่นั้น เป็นสิทธิของโจทก์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 288 (1) การที่โจทก์ไม่ไปดูแลการขายทอดตลาดหาได้เป็นผลโดยตรงต่อความเสียหาย หรือจะถือว่าโจทก์มีส่วนในการก่อให้เกิดความเสียหายอันจะทำให้จำเลยพ้นความรับผิด เมื่อการทำละเมิดของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ต้องสูญเสียที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างโดยต้องถูกขายทอดตลาดไป จำเลยจึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนตามราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวรวมทั้งความเสียหายอื่น ๆ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 438 วรรคสอง

เมื่อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของโจทก์มีภาระจำนองกับธนาคาร อ. และถูกขายทอดตลาดโดยจำนองติดไปย่อมเป็นเหตุให้โจทก์หลุดพ้นภาระหนี้ไปตามจำนวนดังกล่าวและต้องนำมาคิดหักจากราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในวันทำละเมิด

ศาลจะมีอำนาจสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจจ่ายค่าเสียหายเพื่อการลงโทษตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 42 ได้นั้น ต้องเป็นกรณีการกระทำที่ถูกฟ้องร้องเกิดจากผู้ประกอบธุรกิจกระทำโดยเจตนาเอาเปรียบผู้บริโภคโดยไม่เป็นธรรมหรือจงใจให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหายหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงไม่นำพาต่อความเสียหายที่จะเกิดแก่ผู้บริโภคหรือกระทำการฝ่าฝืนต่อความรับผิดชอบในฐานะผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ซึ่งการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจที่ว่านี้หมายถึง การกระทำเกี่ยวกับสินค้าที่ขายหรือผลิต หรือการให้บริการที่ก่อให้เกิดผลหรือมีลักษณะตามบทบัญญัติดังกล่าว และมีการฟ้องร้องเป็นคดีกันด้วยข้อพิพาทที่เกิดจากสินค้าที่ขาย หรือผลิต หรือการให้บริการ อันเป็นการประกอบกิจการของผู้ประกอบธุรกิจนั้นเอง แต่การกระทำที่จำเลยถูกโจทก์ฟ้องเป็นคดีนี้เกิดจากการทำละเมิดของจำเลยที่ไม่ได้ดำเนินการเพื่อให้เจ้าพนักงานบังคับคดีงดการบังคับคดีเกี่ยวกับที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของโจทก์ที่ยึดไว้ตามที่โจทก์กับจำเลยตกลงกัน เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างไปไม่ใช่ความเสียหายโดยตรงที่เกิดจากตัวสินค้าและบริการที่ศาลจะมีอำนาจสั่งให้จำเลยจ่ายค่าเสียหายเพื่อการลงโทษตามบทบัญญัติดังกล่าวได้ ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะไม่ได้ยกขึ้นกล่าวอ้างเป็นประเด็นโดยตรง ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) ประกอบ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 7

(หมายเหตุ 1 เดิม ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาตามยอม แต่โจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา จำเลยจึงดำเนินการบังคับคดีด้วยการนำเจ้าพนักงานบังคับคดีสำนักงานบังคับคดีจังหวัดน่านยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของโจทก์ออกขายทอดตลาด และได้ประกาศขายทอดตลาดนัดแรกในวันที่ 29 มิถุนายน 2560

2 ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ยึดไว้มีภาระจำนองธนาคาร อ. ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 เป็นเงิน 307,132.46 บาท ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีจะทำการขายโดยจำนองติดไป

3 เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2560 อันเป็นเวลาก่อนประกาศขายทอดตลาดนัดแรก โจทก์และจำเลยได้ตกลงปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามคำพิพากษาคดีดังกล่าว โดยตกลงกันให้โจทก์ชำระค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ค่าเบี้ยประกันภัยค้างจ่าย และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แก่จำเลยในวันที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แล้วผ่อนชำระหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป ซึ่งโจทก์ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงนี้เรื่อยมา

4 ส่วนการบังคับคดีตามคำพิพากษาคดีดังกล่าวนั้น เนื่องจากจำเลยไม่ได้แจ้งเป็นหนังสือไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าขอให้งดการบังคับคดีไว้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของโจทก์ไปตามนัด และนาง ล. เป็นผู้ซื้อได้ในราคา 650,000 บาท

5 ในทางนำสืบ โจทก์เบิกความประกอบสำเนาหนังสือว่า เจ้าหน้าที่ประจำสาขาองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (จตุจักร) ได้แจ้งผลการตกลงปรับปรุงโครงสร้างหนี้ระหว่างโจทก์กับจำเลยให้ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ผู้บริหารสำนักงานเขตจตุจักร สำนักงานเขตจตุจักรทราบ กับขอให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ของโจทก์ด้วย

6 นาย อ.พนักงานของจำเลยเบิกความว่า โจทก์ได้ทำหนังสือยินยอมให้งดการขายทอดตลาดมอบไว้แก่พนักงานของจำเลยแล้ว

7 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 1,981,376 บาท พร้อมดอกเบี้ย

8 ศาลอุทธรณ์แผนกคดีผู้บริโภคพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน 1,481,376 บาท พร้อมดอกเบี้ย

9 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยข้างต้น โดยพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน 2,832,111.54 บาท พร้อมดอกเบี้ย)

(หลักกฎหมาย ป.พ.พ.มาตรา 438 วรรคสอง ป.วิ.พ.มาตรา 142 (5), 289 (3), 288 (1) พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 7, 42)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

ผู้เสียหายร้องสภาทนายความเอาผิดเจ้าของหอพักโหด

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 4 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ตัวแทนผู้เสียหายจากกรณีถูกเจ้าของหอพักแห่งหนึ่งเอาเปรียบจากการทำสัญญาเช่า และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกว่า 70 คน เดินทางมายื่นหนังสือต่อสภาทนายความ โดยมี ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ และนายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรรมการประชาสัมพันธ์และรองเลขาธิการ เป็นผู้รับเรื่อง

ด้าน ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวว่า สภาทนายความยินดีรับเรื่อง เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือ โดยทนายความอาสาจะได้สอบข้อเท็จจริง จากผู้เสียหาย และจะรีบตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวต่อไป ด้านนายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรรมการประชาสัมพันธ์และรองเลขาธิการ กล่าวถึงข่าวตามที่ปรากฎตามสื่อต่างๆ หากข้อเท็จจริงยุติตามนั้นอาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดในทางแพ่งและมีความผิดทางอาญาหลายกรรมต่างกัน

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3616ขอขยายฎีกาหลังจากพ้นกำหนดยื่นฎีกาแล้ว

คำพิพากษาฎีกาที่ 6478/2567 (เล่ม 9 หน้า 2105) จำเลยเพิ่งขอคัดถ่ายสำเนาคำพิพากษาและสำเนาเอกสารอื่นในสำนวนมาในคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาและอ้างเหตุรอสำเนาเอกสารมาเรียงฎีกาเมื่อพ้นกำหนดยื่นฎีกาแล้ว ถือไม่ได้ว่าเป็นกรณีมีพฤติการณ์พิเศษและมีเหตุสุดวิสัยที่ทำให้จำเลยไม่สามารถยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาก่อนสิ้นระยะเวลาที่กำหนดได้ คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาแก่จำเลยได้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 เป็นการไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 23 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 ทั้งคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาและคำสั่งรับฎีกาของจำเลยในเวลาต่อมา ก็เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบตาม ป.วิ.พ. มาตรา 27 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 และเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225

(หมายเหตุ 1 คดีนี้เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ศาลอุทธรณ์ภาค 9 อ่านคำพิพากษาโดยจัดให้มีการถ่ายทอดภาพและเสียงผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไปยังศาลชั้นต้นและเรือนจำจังหวัด… ครบกำหนดที่จะต้องยื่นฎีกาวันที่ 1 มีนาคม 2567

2 วันที่ 22 มีนาคม 2567 จำเลยยื่นคำร้องผ่านทางเรือนจำจังหวัด…ขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาออกไปอีก 1 เดือน จนถึงวันที่ 1 เมษายน 2567

3 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีถือว่ามีพฤติการณ์พิเศษและกระชั้นกับวันออกคำสั่ง อนุญาตให้จำเลยยื่นฎีกาได้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567

4 วันที่ 29 เมษายน 2567 จำเลยยื่นฎีกาต่อศาลชั้นต้น

5 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยข้างต้น โดยพิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตขยายระยะเวลายื่นฎีกาแก่จำเลย และยกฎีกาของจำเลย)

(หลักกฎหมาย ป.วิ.อ.มาตรา 15, 195 ป.วิ.พ.มาตรา 23, 27)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

อบรม โครงการปฏิรูปทนายความอาสาฯ ประจำปี พ.ศ. 2568 📌 จังหวัดนครศรีธรรมราช (ฟรี)

⚖️ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ⚖️

เปิดอบรม【 ฟรี 】🚩

🌟 โครงการปฏิรูปทนายความอาสาฯ ประจำปี พ.ศ. 2568

📌 จังหวัดนครศรีธรรมราช

 

— เชิญพบกับ —

 

🔶 ดร.วิเชียร ชุบไธสง

นายกสภาทนายความ

 

🔶 นายวีรศักดิ์ โชติวานิช

อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ / รองเลขาธิการ สภาทนายความ

 

🔶 นายสมพร ดำพริก

อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความ

 

🔶 นายสัญญาภัชระ สามารถ

อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ สภาทนายความ

 

🔶 นายไพบูลย์ แย้มเอม

อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ สภาทนายความ

 

🔶 นายยุทธนา เนติศุภชีวิน

กรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 8

 

🔶 นายคำนวณ โสมนิล

ประธานสภาทนายความจังหวัดนครศรีธรรมราช

 

🌟 คุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการอบรม 🌟

1. ประกอบวิชาชีพทนายความตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528

2. ไม่เคยต้องคำสั่งให้ลงโทษถึงที่สุด ตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528

3. เป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์และมีบุคลิกภาพดี

4. มีความรับผิดชอบและอุทิศตนเพื่อสังคม

 

— วันที่อบรม —

📚 วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568

⏰ เวลา 07.45 – 16.30 น.

📍 ณ ห้องแก้วกัลยา โรงแรมเมืองลิกอร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช

–––

📝 สมัครผ่านระบบ Google Forms

🌎 Link ลงทะเบียน :

🔴 รับสมัครวันนี้ ถึง วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม 2568 ( รับจำนวน 250 คน )

✅ ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์อบรม วันพุธที่ 7 เมษายน 2568

–––

☎️สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

โทร. 0 2522 7124-27, 0 2522 7143-47 ต่อ 131, 133, 134

อีเมล์ : legalaid.lct@gmail.com

☎ ติดต่อสอบถาม คุณวารินทร์ โทร. 08 3096 5214

⚖_________________⚖

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3615.ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญไม่ตรงกับคำท้า ศาลจะตีความเพิ่มเติมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4011/2567 การแพ้หรือชนะคดีกันตามคำท้านั้น ผลที่ได้จากเงื่อนไขที่ท้ากันจะต้องชัดเจนตรงกับประเด็นตามคำท้าโดยที่ศาลไม่ต้องตีความผลดังกล่าวให้เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายใดอีก เพราะมิฉะนั้นจะเป็นการถือเอาคำวินิจฉัยของศาลเป็นผลแพ้หรือชนะคดีแทนผลที่ได้จากคำท้า คดีนี้ประเด็นตามคำท้าคือ ลายมือชื่อของจำเลยในหนังสือสัญญากู้เงินและตัวอย่างลายมือชื่อของจำเลยเอกสารหมาย จ.2 ล.1 ถึง ล.4 เมื่อเปรียบเทียบกับลายมือชื่อผู้กู้ในหนังสือสัญญากู้เงินเอกสารหมาย จ.1 แล้ว เป็นลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ โจทก์และจำเลยไม่ได้ท้ากันว่า ลายมือชื่อในหนังสือสัญญากู้เงินเอกสารหมาย จ.1 เกิดจากการพิมพ์หรือการลงชื่อ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจึงไม่ได้เป็นไปตามคำท้า หากจะให้รับฟังว่าลายมือชื่อที่เกิดจากการพิมพ์ย่อมไม่ใช่การลงชื่ออันแสดงว่าลายมือชื่อดังกล่าวไม่ใช่ของบุคคลคนเดียวกัน เท่ากับว่าศาลจะต้องตีความต่อความเห็นของผู้เชี่ยวชาญอีกชั้นหนึ่ง การตีความเช่นนี้จึงเป็นคำวินิจฉัยของศาล หาใช่ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในประเด็นที่ตกลงท้ากันไม่ ซึ่งในชั้นท้ากันคู่ความก็ไม่ได้ตกลงยอมให้ศาลตีความต่อความเห็นของผู้เชี่ยวชาญไว้ด้วย ศาลจึงไม่อาจวินิจฉัยความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในชั้นนี้ได้ เป็นเรื่องที่ต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานอันได้จากการสืบพยานของคู่ความซึ่งย่อมประกอบด้วยพยานหลักฐานอื่นเพิ่มเติมจากรายงานการตรวจพิสูจน์ดังกล่าว

(หมายเหตุ 1 การแพ้หรือชนะคดีกันตามคำท้านั้น ผลที่ได้จากเงื่อนไขที่ท้ากันจะต้องชัดเจนตรงกับประเด็นตามคำท้าโดยที่ศาลไม่ต้องตีความผลดังกล่าวให้เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายใดอีก เพราะมิฉะนั้นจะเป็นการถือเอาคำวินิจฉัยของศาลเป็นผลแพ้หรือชนะคดีแทนผลที่ได้จากคำท้า

2 โจทก์และจำเลยไม่ได้ท้ากันว่า ลายมือชื่อในหนังสือสัญญากู้เงินเอกสารหมาย จ.1 เกิดจากการพิมพ์หรือการลงชื่อ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวจึงไม่ได้เป็นไปตามคำท้า ศาลต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3614.บรรยายฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2659/2567 โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยโดยทุจริตหลอกลวงผู้เสียหายด้วยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จผ่านทางโปรแกรมเฟซบุ๊กตามฟ้องเสนอขายสินค้า ซึ่งความจริงแล้วจำเลยไม่มีเจตนาขายสินค้าดังกล่าว ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินค่าสินค้าให้แก่จำเลย แต่โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องกล่าวหาด้วยว่าเป็นการหลอกลวงเสนอขายสินค้าต่อประชาชนอันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตาม ป.อ. มาตรา 343 และไม่ได้บรรยายว่าการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวนั้นน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ส่วนบัญชีเฟซบุ๊กตามฟ้องโจทก์ก็ไม่บรรยายว่าเฟซบุ๊กดังกล่าวเปิดเป็นสาธารณะที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ อันจะถือได้ว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน และการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จดังกล่าวน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน โจทก์จึงบรรยายฟ้องไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตาม ป.อ. มาตรา 343 และฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1) จึงไม่อาจลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 343 และปรับบทลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1) ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยไม่ได้ฎีกาปัญหานี้มา ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 แต่พฤติการณ์การกระทำความผิดของจำเลยตามฟ้องเป็นความผิดฐานฉ้อโกงตาม ป.อ. มาตรา 341 และฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จอันเป็นการกระทำต่อบุคคลใดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 วรรคสอง ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ ย่อมลงโทษจำเลยในความผิดฐานดังกล่าวได้

การกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันตาม ป.อ. มาตรา 91 ไม่ได้บัญญัติว่าการกระทำหลายกรรมนั้นจะเกิดขึ้นในวาระเดียวกันไม่ได้ การกระทำในวันและเวลาเดียวกันหรือต่อเนื่องในคราวเดียวกันก็อาจจะเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันได้ คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามฟ้องว่าจำเลยหลอกลวงโดยการส่งข้อความเสนอขายสินค้าให้แก่ผู้เสียหายผ่านทางบัญชีเฟซบุ๊กตามฟ้องรวม 2 ครั้ง และผู้เสียหายซื้อสินค้าต่างชนิดกัน 2 ครั้ง เป็นการหลอกลวงผู้เสียหายเพื่อให้ได้เงินจากผู้เสียหายในการซื้อสินค้าต่างชนิดกันรวม 2 ครั้ง จึงเป็นความผิด 2 กรรมต่างกัน

(หลักกฎหมาย ป.อ.มาตรา 91, 341, 343 ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง, 225 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1), 14 วรรคสอง)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849