ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3338.ผู้เยาว์ยินยอมให้อนาจาร ผู้กระทำก็มีความผิดฐานพรากผู้เยาว์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2996/2566 แม้ได้ความจาก ส. เบิกความตอบทนายจำเลยถามค้านว่า เมื่อจำเลยมาชวนผู้เสียหายที่ 1 ไปดูโทรทัศน์ ผู้เสียหายที่ 1 ถามพยานว่าให้ผู้เสียหายที่ 1 ไปหรือไม่ ตอนแรกพยานไม่ยอมให้ไป เมื่อผู้เสียหายที่ 1 รบเร้าพยานจึงอนุญาต แต่การอนุญาตดังกล่าวก็เป็นการอนุญาตให้ผู้เสียหายที่ 1 ไปดูโทรทัศน์ที่บ้านของจำเลยเท่านั้น มิใช่อนุญาตให้ไปกระทำการที่ไม่สมควรทางเพศ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยพาผู้เสียหายที่ 1 ไปที่บ้านของจำเลยและกระทำอนาจารผู้เสียหายที่ 1 พฤติการณ์ของจำเลยจึงบ่งชี้แสดงให้เห็นว่ามีเจตนาพาผู้เสียหายที่ 1 จากบริเวณหนึ่งไปอีกบริเวณหนึ่งเพื่อการอนาจาร ถือได้ว่าเป็นการพาไปหรือแยกผู้เสียหายที่ 1 ออกจากการปกครองดูแลของผู้เสียหายที่ 2 ทำให้การปกครองดูแลของผู้เสียหายที่ 2 ถูกรบกวนหรือถูกกระทบกระเทือนโดยผู้เสียหายที่ 2 ไม่ยินยอมด้วย อันเป็นการล่วงละเมิดอำนาจปกครองของผู้เสียหายที่ 2 และเป็นการพรากผู้เสียหายที่ 1 ไปจากผู้เสียหายที่ 2 ซึ่งเป็นมารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันสมควร เพื่อการอนาจารตามฟ้อง

(หมายเหตุ 1 คดีนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับให้ยกฟ้องและยกคำร้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของผู้ร้องทั้งสอง

2 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้เสียหายที่ 1 ซึ่งเป็นเด็ก ขณะเกิดเหตุอายุเพียง 8 ปีเศษ แต่เบิกความถึงเหตุการณ์ที่จำเลยกระทำต่อผู้เสียหายที่ 1 เป็นขั้นเป็นตอนตามลำดับตรงไปตรงมา ยากที่เด็กทั่ว ๆ ไปซึ่งมิได้ประสบเหตุการณ์มาก่อนจะสามารถเบิกความได้เช่นนั้น

3 และศาลฎีกายังวินิจฉัยว่า แม้จำเลยจะเบิกความว่า ในวันที่ 23 ธันวาคม 2562 ไม่มีการสอบปากคำจำเลยหรืออ่านข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ในคดีนี้ให้จำเลยฟัง ทำนองว่าจำเลยไม่ได้ให้การถึงเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ในชั้นสอบสวนตามเอกสารหมาย จ.12 ด้วยความสมัครใจ แต่จำเลยก็เบิกความรับว่าลายมือชื่อในเอกสารหมาย จ.12 เป็นลายมือชื่อของจำเลย ทั้งยังเบิกความตอบโจทก์ถามค้านรับว่า บันทึกคำให้การมีลายมือชื่อนาง ด. ภริยาจำเลยอยู่ด้วย

4 ศาลฎีกาจึงได้มีคำวินิจฉัยดังกล่าวข้างต้น โดยพิพากษากลับเป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น (ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 6 ปี)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

ประกาศสถาบันพัฒนาวิชาชีพทนายความ สภาทนายความ📣

ประกาศสถาบันพัฒนาวิชาชีพทนายความ สภาทนายความ📣

รับสมัครอบรม 【 ฟรี 】🚩

🌟 สำหรับบุคคลทุกสาขาอาชีพ

 

👉 เรื่อง “การดำเนินคดีเช่าซื้อ”

 

—เชิญพบกับ—

 

🔶️ ดร.วิเชียร ชุบไธสง

นายกสภาทนายความ

 

🔶️ นายปฏิกรณ์ คงพิพิธ

ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลอุทธรณ์ภาค 1

 

🔶️ ดร.วิรัลพัชร เวธทาวริทธิ์ธร

อุปนายกฝ่ายวิชาการ สภาทนายความ

 

🗓️ วันพุธที่ 7 สิงหาคม 2567

⏰ เวลา 13.00 – 16.00 น.

📍 ณ ห้องประชุม ชั้น 5 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

 

 

การลงทะเบียนมี 2 ช่องทาง 🔖

🪑 Onsite

🌎 Link ลงทะเบียน : https://forms.gle/6EdUR2ojJDqXYRtG8

—————————

 

🪑 Online

🌎 Link ลงทะเบียน : https://forms.gle/d1SBMJZSq2geuN5X6

—————————

👉ติดต่อสอบถาม คุณพิมพ์ฉวี คุณจิดาภา ☎️ 06 4291 4640

 

⚖___________ ⚖

คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.)   หารือสภาทนายความเตรียมลงนาม MOU การทำงานร่วมกัน 

คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) หารือสภาทนายความเตรียมลงนาม MOU การทำงานร่วมกัน 

เมื่อวันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2567 เวลา 12.00 น. ณ ห้องรับรอง สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ นายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการสภาทนายความและในฐานะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้การต้อนรับ พลตำรวจโท สรศักดิ์ เย็นเปรม ประธานกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ(ก.ร.ตร.) นางสมศรี หาญอนันทสุข และ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร กรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) เพื่อหารือเรื่องการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การทำงานร่วมกันระหว่างคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ กับสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3337.มีปลอกกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง ไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2566 (เล่ม 8 หน้า 19) ปลอกกระสุนปืนเล็กกล ขนาด 7.26 มม. Russian 1 ปลอก ที่จำเลยมีไว้ในครอบครองนั้น เป็นปลอกกระสุนปืนที่ใช้ยิงไปแล้ว ทั้งโจทก์มิได้บรรยายฟ้องและนำสืบให้เห็นว่า จำเลยจะใช้ปลอกกระสุนปืนของกลางไปอัดหรือใช้ประกอบให้อยู่ในสภาพเป็นเครื่องกระสุนปืนสามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตหรือวัตถุได้ ดังนั้น ปลอกกระสุนปืนของกลางจึงไม่เป็นเครื่องกระสุนปืน การที่จำเลยมีไว้ในครอบครอง จึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 55, 78 วรรคหนึ่ง แม้จำเลยไม่ได้ฎีกาในปัญหาข้อนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185 วรรคหนึ่ง ประกอบ 215 และมาตรา 225

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3336.การสนทนาทางโทรศัพท์เพื่อให้สินบนแก่เจ้าพนักงานตำรวจ ไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2566 (เล่ม 8 หน้า 7) จำเลยที่ 1 ได้มาที่บ้านของ ร. ซึ่งเป็นเวลาภายหลังจากที่ ร. ได้ตกลงที่จะให้เงินเป็นสินบนแก่ร้อยตำรวจเอก ธ. แล้ว โดยจำเลยที่ 1 มิได้เป็นผู้ร่วมเสนอสินบนให้แก่เจ้าพนักงานตำรวจด้วย ซึ่งความผิดตาม ป.อ. มาตรา 144 ย่อมเป็นความผิดสำเร็จเมื่อมีการให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน แม้จะยังไม่ได้ส่งมอบทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานก็ตาม การที่ ร. โทรศัพท์ติดต่อให้จำเลยที่ 1 นำเงินมาให้เจ้าพนักงานตำรวจที่บ้านของ ร.นั้น จำเลยที่ 1 เพิ่งเข้ามาเกี่ยวข้องโดยเป็นผู้นำเงินสินบนมาที่บ้านเกิดเหตุหลังจากความผิดสำเร็จแล้ว จึงมิใช่เป็นการร่วมกระทำความผิดกับ ร. ในลักษณะของตัวการ ทั้งมิใช่เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด จึงไม่เป็นผู้สนับสนุน อีกทั้งเมื่อจำเลยที่ 1 มาถึงบ้านของ ร. ก็ถูกร้อยตำรวจเอก ธ. กับพวก จับกุมทันทีโดยไม่มีโอกาสที่จะพูดคุยกับร้อยตำรวจเอก ธ. หรือ ร. ถึงเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่มีพฤติการณ์ใดที่จะบ่งชี้ว่า ได้ร่วมกับ ร.ให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน แต่อย่างไรก็ตาม จำเลยที่ 1 เป็นผู้นำเงินสินบนมามอบให้แก่เจ้าพนักงานตำรวจเพื่อจูงใจให้เจ้าพนักงานตำรวจกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ด้วยการปล่อยตัว ธ. และ ก. และมิให้ยึดรถกระบะ เป็นกรณีที่จำเลยที่ 1 กระทำความผิดแยกได้ต่างหาก จากการกระทำความผิดของ ร. ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ต่างไปจากคำฟ้องที่ว่า จำเลยทั้งสองร่วมกับ ร. ให้สินบนแก่เจ้าพนักงานก็ตาม แต่ก็เป็นข้อเท็จจริงที่รับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงานแล้ว เพราะการกระทำนั้นไม่ว่าจำเลยทั้งสองจะร่วมกันกระทำหรือต่างกระทำความผิดเพียงลำพัง จำเลยแต่ละคนก็ย่อมถูกลงโทษ แต่จะลงโทษได้ตามคำขอของโจทก์หรือไม่เท่านั้น ข้อเท็จจริงตามคำฟ้องที่แตกต่างจากข้อเท็จจริงในทางพิจารณาดังกล่าวมิใช่ข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยที่ 1 มิได้หลงต่อสู้ ศาลย่อมฟังลงโทษจำเลยที่ 1 ตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสอง

จำเลยที่ 2 นั้น มิได้ร่วมอยู่ในที่เกิดเหตุไม่ได้ร่วมเจรจาตกลงที่จะให้สินบนแก่ร้อยตำรวจเอก ธ. โดยตรงลำพังแต่เพียงการสนทนากันทางโทรศัพท์ระหว่าง ร. กับจำเลยที่ 2 ว่าให้ ร. ถามเจ้าพนักงานว่าเคลียร์ที่นี่จบไหม ทำนองจะให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน แต่ขณะนั้นยังมิได้มีการเสนอเรื่องดังกล่าวแก่ร้อยตำรวจเอก ธ. ยังไม่ได้มีการกระทำด้วยการขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการหรือประวิงการ กระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่แต่อย่างใด การที่ ร. ไปเสนอแก่ร้อยตำรวจเอก ธ. ว่าจะให้เงินจำนวน 50,000 บาท จบกันที่นี่ได้ไหม เป็นการกระทำโดยลำพังของ ร.เอง ไม่เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 2 รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 กระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง

(หมายเหตุ 1 จำเลยที่ 1 ได้นำเงินสินบนจำนวน 50,000 บาท ที่ ร.ได้เจรจากับเจ้าพนักงานตำรวจมาให้ ร. ที่บ้านของ ร. ไม่เป็นความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกับ ร.กระทำความผิด และไม่เป็นการสนับสนุนผู้กระทำความผิด แต่เป็นความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงานต่างหากเป็นอีกส่วนหนึ่ง

2 ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่ได้อยู่ร่วมเจรจาในการให้สินบนแก่เจ้าพนักงานตำรวจ เพียงแต่สนทนาทางโทรศัพท์กับ ร. ว่า ให้ ร.ถามเจ้าพนักงานว่า เคลียร์ที่นี่จบไหม แม้จะเป็นทำนองว่า จะให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ก็ยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน)

 

 

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3335.หลักเกณฑ์การพิจารณาคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2566 (เล่ม 7 หน้า 34) ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 46 บัญญัติว่า ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญานั้น ประการแรก ต้องเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา และคดีก่อนต้องเป็นคดีอาญา ส่วนคดีหลังเป็นคดีแพ่ง ประการที่ 2 ข้อเท็จจริงในคดีส่วนอาญาซึ่งศาลในคดีส่วนแพ่งจำต้องถือตามเป็นข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับคดีส่วนแพ่ง และต้องเป็นประเด็นโดยตรงในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ประการที่ 3 ศาลในคดีส่วนอาญาได้วินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงไว้แน่นอน และคดีถึงที่สุด

คดีส่วนอาญาของศาลชั้นต้น โจทก์ทั้งสองฟ้องจำเลยทั้งสองว่า ร่วมกันบุกรุกที่ดินพิพาทและร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ส่วนคดีนี้โจทก์ทั้งสองฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองและบริวารออกจากที่ดิน ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและเรียกค่าเสียหาย จึงถือว่าคดีนี้เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องคดีอาญา ในคดีส่วนอาญามีประเด็นพิจารณาว่า โจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทหรือไม่ ซึ่งจำเลยทั้งสองก็ต่อสู้ว่า จำเลยทั้งสองได้ครอบครองปรปักษ์ที่ดินพิพาทจนได้กรรมสิทธิ์แล้ว อันถือว่าประเด็นดังกล่าวเป็นประเด็นโดยตรงในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับคดีส่วนแพ่ง ทั้งในการพิจารณาและรับฟังข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว ศาลชั้นต้นก็ให้โอกาสคู่ความทั้งสองฝ่ายต่อสู้คดีอย่างเต็มที่โดยให้โจทก์ทั้งสองและจำเลยทั้งสองนำพยานของฝ่ายตนเข้าสืบ อันเป็นการรับฟังพยานหลักฐาน ว่าใครมีน้ำหนักมากกว่ากัน จึงวินิจฉัยว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งสอง อันเป็นการรับฟังพยานหลักฐานและวินิจฉัยข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วนและโดยชอบแล้ว และเมื่อคดีส่วนอาญาศาลอุทธรณ์ภาค 6 มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งจึงจำต้องรับฟังข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา นอกจากนี้ คำพิพากษาถึงที่สุดก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคำพิพากษาของศาลฎีกาแต่อย่างใด ดังนั้น เมื่อในคดีส่วนอาญา ศาลฟังข้อเท็จจริงว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งสอง จำเลยทั้งสองได้บุกรุกแย่งการครอบครอง จึงต้องถือตามคดีส่วนอาญาว่า ที่ดินพิพาทไม่ใช่ของจำเลยทั้งสองโดยการครอบครองปรปักษ์

(หมายเหตุ 1 คดีนี้โจทก์ทั้งสองฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ทั้งสองได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นระยะเวลาที่ได้ล่วงพ้นเกิน 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์ทั้งสองได้รู้ถึงการกระทำละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว

2 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำให้การของจำเลยทั้งสองเป็นคำให้การที่แสดงเหตุแห่งการขาดอายุความในเรื่องละเมิด รวมถึงระยะเวลาที่กล่าวอ้างว่า คดีโจทก์ทั้งสองขาดอายุความ โดยมิได้ต่อสู้ว่า คดีโจทก์ทั้งสองขาดอายุความเพราะเลยระยะเวลา 1 ปี ที่ต้องฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการถูกแย่งการครอบครองที่ดินนับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง คำให้การของจำเลยทั้งสองหาได้ก่อให้เกิดประเด็นในเรื่องอายุความ การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนการครอบครองที่ดิน แต่อย่างใด)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

นายกสภาทนายความ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมโครงการปฏิรูปทนายความอาสา ทนายความขอแรง และที่ปรึกษากฎหมายของเด็กและเยาวชน ประจำปีงบประมาณ 2567

เมื่อวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2567 เวลา 08.30 – 17.00 น. ที่ห้องประชุมอาคาร 12 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์หันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา : ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมโครงการปฏิรูปทนายความอาสา ทนายความขอแรง และที่ปรึกษากฎหมายของเด็กและเยาวชน ประจำปีงบประมาณ 2567

 

โดยมี ดร.คุณานนต์ นงนุช ประธานสภาทนายความจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวต้อนรับ นายฉัตรประพล แย้มเพริศศรี กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 1

กล่าวรายงาน นายไพบูลย์ แย้มเอม อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ผู้ดำเนินรายการ ยังได้รับเกียรติจาก นายชัยวัฒน์ บุญเกื้อ นายทะเบียนสภาทนายความ นายมะโน ทองปาน รองประธานกรรมการมรรยาททนายความ นางสาวตรีนุช ภูกนกพร เลขานุการ ภาค 1 ว่าที่ร้อยตรี เอกชัย จันทพึ่ง ประธานสภาทนายความจังหวัดสระบุรี ดร.ยุทธนา มาสำราญ ประธานสภาทนายความจังหวัดลพบุรี นายปรีชา เกตุสวัสดิ์ ประธานสภาทนายความจังหวัดพระประแดง นายธีระเกียรติ อนันตรสุชาติ ประธานสภาทนายความจังหวัดอ่างทอง และนายนคร อารยะวงศ์ ประธานสภาทนายความจังหวัดปทุมธานี  นอกจากนี้ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ “ประมวลจริยธรรมและมรรยาททนายความของทนายความอาสา“ นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ รองเลขาธิการสภาทนายความ บรรยายหัวข้อ “พระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562” “พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565” นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย บรรยายหัวข้อ “บทบาททนายความอาสากับการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย” นายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ บรรยายหัวข้อ “ทนายความอาสากับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในคดีอาญา” ดร.ชัยชีพ ชโลปถัมภ์ กรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย บรรยายหัวข้อ “กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับทนายความอาสา” ซึ่งมีทนายความในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และทนายความภาค 1 เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3334.อุทธรณ์ในคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ในส่วนคดีแพ่งไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3330/2566 คดีนี้เป็นคดีอาญา ซึ่งตาม ป.วิ.อ. มาตรา 252 กำหนดไว้ว่า ในคดีอาญาทั้งหลายห้ามมิให้ศาลยุติธรรมเรียกค่าธรรมเนียมนอกจากที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้ ซึ่งบทบัญญัติในหมวดนี้ในส่วนของจำเลยไม่ได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น จึงต้องบังคับไปตามบทบัญญัติดังกล่าว เมื่อค่าขึ้นศาลเป็นค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่ง จำเลยจึงไม่ต้องเสีย ดังนั้น แม้จำเลยทั้งสามมิได้เสียค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์มาด้วย ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ก็มีอำนาจวินิจฉัยในคดีส่วนแพ่ง

(หมายเหตุ 1 คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง และให้จำเลยชำระเงินคืนแก่โจทก์

2 ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องในคดีส่วนแพ่งใหม่

3 โจทก์ฎีกาว่า จำเลยทั้งสามอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีส่วนแพ่ง แต่จำเลยทั้งสามมิได้วางค่าฤชาธรรมเนียมที่เป็นค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ในคดีส่วนแพ่ง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 149 จึงไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยในคดีส่วนแพ่ง ถือได้ว่าจำเลยทั้งสามมิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีส่วนแพ่ง คดีในส่วนแพ่งถือว่าถึงที่สุดแล้ว

4 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้จำเลยทั้งสามมิได้เสียค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์มาด้วยตามที่โจทก์ฎีกามาก็ตาม ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ก็มีอำนาจวินิจฉัยคดีส่วนแพ่งได้ และมีคำวินิจฉัยข้างต้น)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

นายกสภาทนายความ ได้เดินทางไปให้กำลังใจแก่ทนายความอาสาซึ่งได้ไปปฏิบัติหน้าที่ในการนั่งให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายแก่ประชาชน

เมื่อวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2567 เวลา 9.00 น. ที่ วัดยาง พระอารามหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร : ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ มอบหมายให้นายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการสภาทนายความ เป็นประธานร่วมพิธีเปิดโครงการน้ำพระทัยพระราชทานสาธารณะสุขเพื่อชุมชน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา

โดยหน่วยงานที่ร่วมจัดกิจกรรม มีดังนี้ได้แก่มูลนิธิสมาคมสตรีอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย ทันตกรรมจิตอาสา บุญญานุภาพ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี โรงพยาบาลมหาชัย พร้อมแพทย์จังหวัดราชบุรี สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข สำนักงานเขตสวนหลวง และแพทย์แผนไทย

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ได้เดินทางไปให้กำลังใจแก่ทนายความอาสาซึ่งได้ไปปฏิบัติหน้าที่ในการนั่งให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายแก่ประชาชนที่มาร่วมงานในครั้งนี้จำนวนมาก

 

สภาทนายความ ช่วย ผู้เอาประกันโควิด เจอ (ไม่) จ่าย จบ

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2567 เวลา 11.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 5 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ : ผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากบริษัทประกัน COVID – 19 กว่า 200 คน เดินทางมาที่สภาทนายความเพื่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความและหาทางออกให้แก่ผู้เสียหาย โดยเฉพาะเรื่องแหล่งเงินเยียวยาและเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนของผู้เสียหาย

โดยมี ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในฐานะประธานคณะทำงานให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำสัญญาประกันภัย COVID – 19 นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรรมการประชาสัมพันธ์และรองเลขาธิการ นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ เป็นผู้รับเรื่อง โดยสภาทนายความจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจรจากับหน่วยงานและส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้แก่ผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากบริษัทประกัน COVID – 19

ทั้งนี้ผู้เสียหายจากประกันโควิด-19 ทั้งหมดที่มาในวันนี้ ได้ร่วมลงรายชื่อเพื่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความ และประสงค์จะขอเจรจากับกระทรวงการคลังและนายกรัฐมนตรีในการร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป