ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3631.อดีตพ่อเลี้ยงกระทำชำเราผู้เยาว์จะต้องรับโทษหนักขึ้นหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5524/2567 (เล่ม 9 หน้า 2038) แม้ขณะเกิดเหตุจำเลยไม่ได้อยู่กินฉันสามีภริยากับ ก. แล้ว และอำนาจปกครองของผู้เสียหายตามกฎหมายเป็นของ ก. ก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่า ขณะเกิดเหตุ ก. พาผู้เสียหายไปฝากให้พักอาศัยอยู่กับจำเลยซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายเคยพักอาศัยอยู่กับจําเลยหลายปีโดยจำเลยอุปการะเลี้ยงผู้เสียหายเสมือนเป็นบิดา เช่นนี้ พฤติการณ์ล่วงละเมิดทางเพศที่จำเลยกระทำต่อผู้เสียหายจึงมีลักษณะเป็นการกระทำที่จำเลยมีอำนาจบังคับเหนือผู้เสียหาย ซึ่งก่อนเกิดเหตุเคยอยู่ในความอุปการะของจำเลย และขณะเกิดเหตุ ก. ได้ฝากให้ผู้เสียหายอยู่ในความดูแลของจำเลย ทำให้ผู้เสียหายต้องมีความเคารพยำเกรงและเชื่อฟังจำเลย ผู้เสียหายจึงเป็นผู้อยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่นใดของจำเลยตามความหมายของ ป.อ. มาตรา 285 แล้ว ดังนี้ เมื่อจำเลยพยายามกระทำชำเราผู้เสียหายในระหว่างที่ผู้เสียหายอยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่นใดของจำเลยแล้ว จำเลยจึงต้องรับโทษหนักขึ้น

(หลักกฎหมาย ป.อ. มาตรา 285)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

รับสมัครสัมมนาวิชาการ 【 ฟรี เรื่อง Ai กับการพัฒนาวิชาชีพทนายความ 

⚖️ สถาบันพัฒนาวิชาชีพทนายความ สภาทนายความ⚖️

🌟 รับสมัครสัมมนาวิชาการ 【 ฟรี 】

👉 เรื่อง Ai กับการพัฒนาวิชาชีพทนายความ

– การเรียนรู้เพื่อใช้งาน Ai

– การใช้ Ai เพื่อความสะดวกในการทำงานด้านกฎหมาย

 

— เชิญพบกับ —

🔶 ดร.วิเชียร ชุบไธสง

นายกสภาทนายความ

 

🔶 นายวีระศักดิ์ บุญเพลิง

กรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 3

 

🔶 นายสัมฤทธิ์ แดงมันฮับ

ประธานสภาทนายความจังหวัดสุรินทร์

 

🔶 นายเอกฤทธิ์ ธรรมสถิต

วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้าน Ai ระดับประเทศ

 

— วันที่อบรม —

📆 วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2568

⏰ เวลา 09.00 – 12.00 น.

📍 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

 

🌏 Link ลงทะเบียน : https://forms.gle/4mgTR5y5pD7BSTDW6

—————————

ติดต่อสอบถาม: คุณพิมพ์ฉวี และคุณจิดาภา โทร. 06 4291 4640

⚖_______________⚖

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3632.สั่งจ่ายเช็คตามหนังสือรับสภาพหนี้ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4410/2567 หนังสือรับสภาพหนี้มีข้อความชัดแจ้งว่า จำเลยยอมรับว่าเป็นหนี้โจทก์ 467,000 บาท จำเลยยอมชำระหนี้ดังกล่าวโดยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่โจทก์ จำเลยและโจทก์ลงลายมือชื่อในหนังสือดังกล่าวด้วย หนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าวจึงถือเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินที่โจทก์สามารถนำไปฟ้องร้องให้จำเลยรับผิดทางแพ่งได้โดยตรง การที่จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมตามหนังสือรับสภาพหนี้จึงเป็นการสั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค เนื่องจากลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขที่ให้ไว้แก่ธนาคารโดยจำเลยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น การกระทำของจำเลยจึงครบองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 (1)

(หลักกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 ม. 4 (1))

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

⚖️ สภาทนายความฯ จัดอบรมปฏิรูปทนายความอาสา ทนายความขอแรง และที่ปรึกษากฎหมายเด็กและเยาวชน ปี 2568 (ภาค 9) จังหวัดสงขลา

เมื่อวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. ที่ ห้องสิรินภา (ชั้น M) โรงแรมหรรษา เจบี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา : ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมโครงการปฏิรูปทนายความอาสา ทนายความขอแรง และที่ปรึกษากฎหมายของเด็กหรือเยาวชน ประจำปีงบประมาณ 2568

โดยมี นายกรณัท เจริญศิลป์ ประธานสภาทนายความจังหวัดสงขลา กล่าวต้อนรับ นายโอฬาร กุลวิจิตร กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 9 กล่าวรายงาน นายไพบูลย์ แย้มเอม อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ เป็นผู้ดำเนินรายการ และได้รับเกียรติจากนายธีรพงศ์ ดนสวี ประธานสภาทนายความจังหวัดนาทวี นายจำแลง มงคลนิสภกุล อดีตกรรมการบริหารสภาทนายความภาค 9

นอกจากนี้ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ “จริยธรรมและมรรยาททนายความของทนายความอาสา” และ “กฎหมายเกี่ยวกับการเช่าซื้อ ค้ำประกัน สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิต” นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ รองเลขาธิการสภาทนายความ บรรยายหัวข้อ “กฎหมายเกี่ยวกับการปราบปรามธุรกรรมทางเทคโนโลยี การฉ้อโกง ฉ้อโกงประชาชน การฟอกเงิน” นายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ บรรยายหัวข้อ “การคุ้มครองสิทธิผู้ต้องหาในคดีอาญา การทำหน้าที่ทนายความขอแรงและที่ปรึกษากฎหมายของเด็กและเยาวชน” และ ดร.ชัยชีพ ชโลปถัมภ์ กรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย บรรยายหัวข้อ “หลักเกณฑ์การทำหน้าที่ทนายความอาสาและที่ปรึกษากฎหมายเด็กและเยาวชน” ซึ่งมีทนายความในจังหวัดสงขลาและทนายความภาค 9 เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้จำนวนมาก

 

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3630.ทำร้ายร่างกายโดยพลาด

คำพิพากษาฎีกาที่ 319/2567 (เล่ม 8 หน้า 1639) จำเลยมิได้เป็นตัวการร่วมกับ ส. ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงผู้ตาย และยังไม่แน่ว่าจำเลยรู้เห็นในการที่ ส. มีอาวุธปืนมาที่เกิดเหตุหรือไม่ เช่นนี้ไม่อาจรับฟังว่าจำเลยมีเจตนาที่จะร่วมกับ ส. มีอาวุธปืน จำเลยไม่มีความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยได้รับใบอนุญาต ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษายกฟ้องในข้อหาความผิดฐานดังกล่าว ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 215 และมาตรา 225

ตามทางพิจารณาได้ความว่า การกระทำของจำเลยเป็นเพียงความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยพลาดตาม ป.อ. มาตรา 295 ประกอบมาตรา 60 เป็นความผิดหลายอย่างซึ่งรวมอยู่ใน ความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามฟ้องและเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง ศาลฎีกามีอำนาจลงโทษจำเลย ในการกระทำผิดตามที่พิจารณาได้ความตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย ประกอบมาตรา 215 และมาตรา 225

ขณะเกิดเหตุความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยพลาดตาม ป.อ. มาตรา 295 ประกอบมาตรา 60 ตามที่พิจารณาได้ความ มีระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้ามิได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลภายในกำหนดสิบปีนับแต่วันกระทำความผิด เป็นอันขาดอายุความ ตาม ป.อ. มาตรา 95(3) โจทก์ฟ้องคดีและได้ตัวจำเลยมาศาลเกินสิบปีแล้ว จึงขาดอายุความ ไม่อาจลงโทษจำเลยได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 215 และมาตรา 225

โจทก์ร่วมทั้งสองยื่นคำร้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นค่าขาดไร้อุปการะ แม้คำพิพากษาคดีส่วนแพ่งต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายอันว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่ง โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจำเลย ต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดหรือไม่ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 47 วรรคหนึ่ง แต่เมื่อการกระทำของจำเลยไม่ได้เป็นผลให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย โจทก์ร่วมทั้งสองจึงไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดไร้อุปการะจากจำเลยได้

(หมายเหตุ 1 ขณะเกิดเหตุ นาย ก.ขับรถจักรยานยนต์จะพาผู้ตายซึ่งนั่งซ้อนท้ายไปส่งที่บ้าน พบจำเลยและนาย ส.ยืนอยู่ข้างทางที่เกิดเหตุ โดยจำเลยถืออาวุธมีด และจำเลยใช้อาวุธมีดฟันที่ช่วงลำคอนาย ก. ผู้ตายกดศีรษะของนาย ก.ลงและใช้มือรับอาวุธมีดจนรถจักรยานยนต์ล้มลง ผู้ตายกับจำเลยกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันโดยจำเลยไม่ได้ถืออาวุธมีด หลังจากนั้นได้แยกย้ายกันไป ผู้ตายเดินไปหานาย ส. จึงถูกนาย ส.ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย

2 ผลการตรวจของแพทย์นิติเวชพบบาดแผลฉีกขาดขอบเรียบข้อมือขวา 1.8 คูณ 0.5 เซนติเมตร ปลายแขนซ้าย 4 คูณ 1.5 เซนติเมตร กับรอยถากต้นแขนซ้าย 5 คูณ 0.3 เซนติเมตร

3 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยไม่ได้เป็นตัวการร่วมกับนาย ส.ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย)

(หลักกฎหมาย ป.อ.มาตรา 95 ป.วิ.อ.มาตรา 40 , 44/1 , 47 , 185 , 192)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3629.อยู่ในเหตุการณ์แต่ไม่ห้ามปราม หลังเกิดเหตุหลบหนีไปด้วยกัน ถือว่าเป็นตัวการกระทำความผิด

คำพิพากษาฏีกาที่ 1976/2567 (เล่ม 8 หน้า 1764) จำเลยที่ 2 ซึ่งนั่งซ้อนท้ายลงจากรถจักรยานยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับขี่แล้วมาดึงตัวผู้เสียหายลงไปในคลองหลังจากจำเลยที่ 1 ใช้ไม้ไผ่ตีทำร้ายผู้เสียหายที่แขนซ้ายและบริเวณมือขวาซึ่งไม่ทำให้ มีผลดั่งเช่นที่ผู้ตายได้รับ แล้วจำเลยที่ 2 กดผู้เสียหายลงไปในน้ำความลึกประมาณเอวเป็นเวลาถึง 3 นาที จำเลยที่ 2 ย่อมรู้ดีว่าจะทำให้ผู้เสียหายจมน้ำเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แสดงว่ามีเจตนาที่จะให้ผู้เสียหายได้รับผลแห่งการกระทำเช่นเดียวกันกับที่ผู้ตายได้รับ การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่าผู้เสียหายหาใช่เป็นเพียงเจตนาทำร้ายไม่ จำเลยที่1 อยู่และเห็นเหตุการณ์โดยตลอด แต่กลับไม่กระทำการใดๆ ในทางห้ามปรามหรือหยุดยั้งจำเลยที่ 2 ทั้งหลังเกิดเหตุยังหลบหนีไปด้วยกัน พฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 เป็นการยอมรับเอาการกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการกระทำของตนเช่นกัน จำเลยที่ 1 จึงเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้เสียหาย

(หลักกฎหมาย ป.อ.มาตรา 83)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

คณะ ดร.วิเชียร ชุบไธสง ให้เกียรติทนายความสุภาพสตรี ร่วมคณะ 4 คน

เนื่องจากในปัจจุบันมีทนายความซึ่งเป็นสุภาพสตรีจำนวนมาก ดังนั้นคณะ ดร.วิเชียร ชุบไธสง ผู้สมัครนายกเบอร์ 3 และ กรรมการสภาทนายความเบอร์ 25 ถึงเบอร์ 46 ได้ให้เกียรติแก่ทนายความซึ่งเป็นสุภาพสตรีลงรับสมัครเลือกตั้งตามสัดส่วนที่ควรจะเป็นโดยมีผู้สมัครกรรมการที่เป็นสุภาพสตรีรวม 4 คน ซึ่งสมัครเป็นกรรมการส่วนกลาง 3 คน ได้แก่ ดร.วิรัลพัชร เวธทาวริทธิ์ธร เบอร์ 37 ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นอุปนายกฝ่ายวิชาการ นางสาวศรินทร เลืองวัฒนะวณิช เบอร์ 35 ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นอุปนายกฝ่ายต่างประเทศ นางรุ่งนภา พุฒแก้ว หมายเลข 31 ปัจจุบัน ทำหน้าที่เป็นประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต

และผู้สมัครกรรมการภาค 1 คน ได้แก่ นางพรสวรรค์ สังข์สังวาลย์ หมายเลข42 ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นประธานสภาทนายความจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้สมัครกรรมการภาค 5

 

เชิญชวนให้ทนายความทั่วประเทศออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายกและกรรมการสภาทนายความ ในวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2568

คณะ ดร.วิเชียร ชุบไธสง เชิญชวนให้ทนายความทั่วประเทศออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายกและกรรมการสภาทนายความ ในวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2568 เวลา 9.00 น. ถึง 15.00 น. ท่านที่มีสำนักงานอยู่กรุงเทพมหานคร ให้ไปเลือกตั้งได้ที่สภาทนายความ ส่วนที่มีสำนักงานอยู่ต่างจังหวัดไปเลือกตั้งได้ที่ศาลจังหวัดที่สำนักตั้งอยู่ทุกศาล

24 สิงหาคม 2568 เข้าคูหากา (X)นายกเบอร์ 3 และกรรมการเบอร์ 25-46 ยกทีม

#สานงานต่อ ก่องานเพิ่ม เริ่มงานใหม่

#ไม่มีใครรักเราเท่าเรารักกัน

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3628.ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ

คำพิพากษาฎีกาที่ 5433/2567 (เล่ม 9 หน้า 2016) จำเลยที่ 1 เอาโทรศัพท์เคลื่อนที่และกระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายไปแล้ว จำเลยที่ 1 แกล้งบอกให้ผู้เสียหายขึ้นรถไปสถานีตำรวจพร้อมกับจำเลยทั้งสองซึ่งไม่เป็นความจริง หากแต่เป็นเพียงกลอุบายหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ผู้เสียหายขัดขืนและขอทรัพย์สินคืน จำเลยที่ 1 กระชากคอเสื้อผู้เสียหายพร้อมกับบอกให้จำเลยที่ 2 หยิบอาวุธปืนมาให้จำเลยที่ 1 แล้วจำเลยที่ 2 ทำท่าทางเหมือนกับจะหยิบเอาอาวุธปืนจากลิ้นชักในรถให้แก่จำเลยที่ 1 อันเป็นการแสดงกิริยาท่าทางขู่เข็ญหรือข่มขู่เพื่อให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวไม่กล้าขัดขืนและยินยอมมอบทรัพย์สินให้แก่จำเลยทั้งสองไป การกระชากคอเสื้อและการแสดงกิริยาขู่เข็ญหรือข่มขู่ผู้เสียหายของจำเลยทั้งสองเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องติดต่อในทันใดยังไม่ขาดตอน ด้วยมีเจตนาประสงค์มุ่งหมาย จะเอาโทรศัพท์เคลื่อนที่และทรัพย์สินของผู้เสียหายไปให้ได้ จึงมีลักษณะเป็นการลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้โดยใช้ยานพาหนะ รถกระบะที่จำเลยทั้งสองขับไปตามถนนเพื่อประสงค์จะเอาทรัพย์ของบุคคลที่พบเห็นเพื่อกระทำผิด การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะตาม ป.อ. มาตรา 339 วรรคสอง ประกอบมาตรา 340 ตรี

(หมายเหตุ 1 คดีนี้เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถกระบะมาจอดข้างรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 ลงจากรถเรียกให้ผู้เสียหายจอดรถ โดยจำเลยที่ 1 พกวิทยุสื่อสารมาด้วยทำท่าทีเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมาขอตรวจดูหนังสือเดินทางและโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหาย ส่วนจำเลยที่ 2 ขยับมานั่งคนขับแทนจำเลยที่ 1

2 การที่จำเลยที่ 1 บอกให้ผู้เสียหายขึ้นรถไปสถานีตำรวจกับจำเลยทั้งสองก็เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อว่าจำเลยทั้งสองเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ

3 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 335(7) วรรคแรก ประกอบมาตรา 336 ทวิ

4 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 339 วรรคสอง ประกอบมาตรา 340 ตรี

5 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยข้างต้น โดยพิพากษายืน)

(หลักกฎหมาย ป.อ.มาตรา 339, 340 ตรี)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

สภาทนายความฯ จัดอบรมปฏิรูปทนายความอาสา ทนายความขอแรง และที่ปรึกษากฎหมายเด็กและเยาวชน ปี 2568 (ภาค 1) จังหวัดสมุทรปราการ

เมื่อวันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. ที่ ห้องประชุมเทศบาลตำบลบางปู อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ : ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมโครงการปฏิรูปทนายความอาสา ทนายความขอแรง และที่ปรึกษากฎหมายของเด็กหรือเยาวชน ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี นายปรีชา เกตุสวัสดิ์ ประธานสภาทนายความจังหวัดพระประแดง กล่าวต้อนรับ นายวิรยุทธ ชูสุวรรณ ประธานสภาทนายความจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวรายงาน นายไพบูลย์ แย้มเอม อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ เป็นผู้ดำเนินรายการ และได้รับเกียรติจาก นายศิริศักดิ์ อมาตยกุล ประธานสภาทนายความจังหวัดนนทบุรี นายปรีชา เกตุสวัสดิ์ ประธานสภาทนายความจังหวัดพระประแดง

นอกจากนี้ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ “จริยธรรมและมรรยาททนายความของทนายความอาสา” และ “กฎหมายเกี่ยวกับการเช่าซื้อ ค้ำประกัน สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิต” นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ รองเลขาธิการสภาทนายความ บรรยายหัวข้อ “กฎหมายเกี่ยวกับการปราบปรามธุรกรรมทางเทคโนโลยี การฉ้อโกง ฉ้อโกงประชาชน การฟอกเงิน” และ “หลักเกณฑ์การทำหน้าที่ทนายความอาสาและที่ปรึกษากฎหมายเด็กและเยาวชน” นายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ บรรยายหัวข้อ “การคุ้มครองสิทธิผู้ต้องหาในคดีอาญา การทำหน้าที่ทนายความขอแรงและที่ปรึกษากฎหมายของเด็กและเยาวชน” ซึ่งมีทนายความในจังหวัดสมุทรปราการและทนายความภาค 1 เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้จำนวนมาก