สภาทนายความจับมือกองทุนยุติธรรมลงนามความร่วมมือ (MOU) บูรณาการความยุติธรรมให้ทั่วถึง 

เมื่อวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2568 เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมสนฉัตร ชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรม และ ผ่านระบบประชุมทางไกล (VDO Conference) ได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “การอำนวยความยุติธรรรม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมเท่าเทียม” ระหว่าง สภาทนายความในพระราชูปถัมภ์ กับ กองทุนยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อร่วมกันบูรณาการความช่วยเหลือลดความเหลื่อมล้ำให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรรมได้อย่างสะดวก ทั่วถึงและเท่าเทียม โดยพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะสภานายกพิเศษ แห่งสภาทนายความ เป็นประธานในพิธีลงนามฯ โดยมี ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กับนางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) และ ดร.วิรัลพัชร เวธทาวริทธิ์ธร อุปนายกฝ่ายวิชาการ และนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม/กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการกองทุนยุติธรรม ลงนามเป็นพยาน โดยได้รับเกียรติจากนายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ นายศิริศักดิ์ อมาตยกุล ประธานสภาทนายความจังหวัดนนทบุรี และคณะ พร้อมด้วยผู้แทนสำนักงานยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศและองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมงานจำนวน 60 คน และรับชม จำนวนกว่า 187 คน เข้าร่วมเป็นสักชี พยาน

จากนั้นในเวลา 13.00 น. ได้มีการจัดเสวนา เรื่อง “แนวทางการพัฒนาระบบทนายความของกองทุนยุติธรรมให้เข้าถึงประชาชน” โดย นายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ เป็นผู้แทนสภาทนายความ นางสาวมยุรี จำจรัส ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชลบุรี นายศิริศักดิ์ อมาตยกุล ประธานสภาทนายความจังหวัดนนทบุรี และนายวรพล ชินเพชร ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนยุติธรรม เป็นผู้ดำเนินการเสวนา

 

สภาทนายความประเดิมรับสมัครและประกาศผลสอบออนไลน์ รุ่น 65

เมื่อวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ห้องประชุมชั้น 5 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ เป็นประธานพิธีปฐมนิเทศผู้เข้าฝึกอบรมและทดสอบวิชาว่าความภาคทฤษฎีรุ่นที่ 65 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่รับสมัครผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และจะประกาศผลสอบทางออนไลน์

ตามนโยบายของ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความและคณะกรรมการบริหารสภาทนายความ

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3635.ริบรถยนต์ของกลางที่จะใช้ในการขนบุหรี่ที่มิได้มีการเสียภาษี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5854/2567 คดีนี้ฟ้องโจทก์บรรยายถึงการกระทำความผิดของจำเลยฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งบุหรี่ของกลางอันเป็นสินค้าที่ได้นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร และบรรยายฟ้องตอนท้ายว่าจำเลยใช้รถยนต์ของกลางดังกล่าวในการบรรทุกซ่อนเร้นและขนย้ายบุหรี่ของกลางที่ยังมิได้เสียภาษีและมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ทั้งจำเลยฎีกายอมรับว่าเก็บบุหรี่ของกลางไว้ภายในตู้ลำโพงภายในห้องโดยสารรถยนต์ที่จำเลยตกแต่งเพิ่มเติมเพื่อการประกวดแข่งขันเครื่องเสียงติดรถยนต์ ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าจำเลยใช้รถยนต์ของกลางในการซ่อนเร้นขนย้ายบุหรี่ของกลาง ประกอบกับการขนย้ายบุหรี่ของกลาง 200 ซอง จากนอกราชอาณาจักรเข้ามาในราชอาณาจักรหรือมีบุหรี่ของกลางที่ยังมิได้เสียภาษีไว้ในครอบครองดังกล่าว หากไม่มีรถยนต์ของกลางบรรทุกบุหรี่ของกลางจำนวนมากถึง 200 ซอง ย่อมไม่สามารถขนย้ายบุหรี่ของกลางจำนวนดังกล่าวให้รอดพ้นจากการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ได้สำเร็จ ลักษณะการกระทำความผิดของจำเลยมิใช่เป็นการใช้รถยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะในการสัญจรตามปกติโดยทั่วไป แต่เป็นการใช้รถยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะในการกระทำความผิดโดยใช้ซ่อนเร้นและขนย้ายบุหรี่ของกลางอันพึงต้องริบตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 165 วรรคหนึ่ง

(หมายเหตุ คดีนี้ จำเลยฎีกายอมรับว่าเก็บบุหรี่ของกลางไว้ภายในตู้ลำโพงภายในห้องโดยสารรถยนต์ที่จำเลยตกแต่งเพิ่มเติมเพื่อการประกวดแข่งขันเครื่องเสียงติดรถยนต์ ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่า หากไม่มีรถยนต์ของกลางบรรทุกบุหรี่ของกลางจำนวนมากถึง 200 ซอง ย่อมไม่สามารถขนย้ายบุหรี่ของกลางจำนวนดังกล่าวให้รอดพ้นจากการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ได้สำเร็จ ลักษณะการกระทำความผิดของจำเลยมิใช่เป็นการใช้รถยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะในการสัญจรตามปกติโดยทั่วไป แต่เป็นการใช้รถยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะในการกระทำความผิดโดยใช้ซ่อนเร้นและขนย้ายบุหรี่ของกลางอันพึงต้องริบตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 165 วรรคหนึ่ง)

(หลักกฎหมาย พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ม. 165 วรรคหนึ่ง)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

เรียนเชิญทนายความทุกท่านที่อยู่ในจังหวัด สุราษฎร์ธานี หรือที่อยู่ในภาค 8 และทนายความทั่วประเทศ พบกับคณะ ดร.วิเชียร ชุบไธสง 

💙 𝗪𝗜𝗖𝗛𝗜𝗘𝗡 𝗘𝗩𝗢𝗟𝗩𝗘 🧡

เรียนเชิญทนายความทุกท่านที่อยู่ในจังหวัด สุราษฎร์ธานี หรือที่อยู่ในภาค 8 และทนายความทั่วประเทศ พบกับคณะ ดร.วิเชียร ชุบไธสง  เรามาร่วมกันวิวัฒน์ วิชาชีพทนายความ

✅โปรดเลือก คณะ ดร.วิเชียร ชุบไธสง

🔹 หมายเลขผู้สมัครนายก เบอร์ 𝟯

🔸 ผู้สมัครกรรมการ เบอร์ 𝟮𝟱-𝟰𝟲

———

🌟 เชิญร่วมสัมมนาวิชาการ ( ฟรี ) 🚩

👉 เรื่อง Ai กับการพัฒนาวิชาชีพทนายความ

– การเรียนรู้เพื่อใช้งาน Ai

– การใช้ Ai เพื่อความสะดวกในการทำงานด้านกฎหมาย

— เชิญพบกับ —

🔹 ดร.วิเชียร ชุบไธสง

นายกสภาทนายความ

 

🔹 นายยุทธนา เนติศุภชีวิน

กรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 8

 

🔹 นายวันชัย บุญฤทธิ์

ประธานสภาทนายความจังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

🔹 นายเอกฤทธิ์ ธรรมสถิต

วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้าน Ai ระดับประเทศ

📌 วัน – เวลา – สถานที่

📆 วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2568

⏰ เวลา 09.00 – 12.00 น.

📍ณ ห้องทับทิม 1 โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า สุราษฎร์ธานี

🌐 Link ลงทะเบียน : https://forms.gle/nfAhn7Kg6rhAxby87

📞 ติดต่อสอบถาม: ทนายทรงธรรม เมืองไทย โทร. 08 0145 1601

# ไม่มีใครรักเราเท่าเรารักกัน

สานงานต่อ ก่องานเพิ่ม เริ่มงานใหม่

 

⚖_______________⚖

นายกสภาทนาย เปิดอบรมวิชาการสัญจร จังหวัดสุรินทร์

⚖️ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 – 12.00 น. ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ : ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ เป็นประธานเปิดการอบรมวิชาการสัญจร จังหวัดสุรินทร์ เรื่อง AI กับการพัฒนาวิชาชีพทนายความ

โดยมี นายสัมฤทธิ์ แดงมันฮับ ประธานสภาทนายความจังหวัดสุรินทร์ กล่าวต้อนรับ นายวีระศักดิ์ บุญเพลิง กรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 3 กล่าวรายงาน ทั้งนี้ยังได้รับเกียรติจาก นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา นายสมศักดิ์ นาคสมบูรณ์ ประธานสภาทนายความจังหวัดพิมาย นายบุญประเสริฐ นวลสาย ประธานสภาทนายความจังหวัดศรีสะเกษ นายจักรกฤษ ยางนอก และนายพลกฤต เนาว์ประโคน อดีตประธานสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยอดีตประธานสภาทนายความจังหวัดในภาค 3 หลายท่านมาร่วมอบรมในครั้งนี้ด้วย

นอกจากนี้ยังมี รศ.ดร.ฉลอง สุขทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ผศ.พรรณราย คำโสภณ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและพันธกิจสัมพันธ์ ผศ.ดร.สังวาลย์ ตุกพิมาย ผู้อำนวยการสำนัก วิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ผศ.ภาคภูมิ ไตรศิริวาณิชย์ ผู้ช่วยอธิการบดีด้านนิติการ อาจารย์จีระพงศ์ อ่อนน้ำคำ อาจารย์ประจำหลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

โดยมี นายเอกฤทธิ์ ธรรมสถิต วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ระดับประเทศ ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ “การเรียนรู้เพื่อใช้งาน AI “ และ “การใช้ AI เพื่อความสะดวกในการทำงานด้านกฎหมาย” ซึ่งมีทนายความในจังหวัดสุรินทร์ และทนายความภาค 3 เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้จำนวนมาก

 

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3633.แก้ไขจำนวนโทษมิได้แก้บทลงโทษ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย

คำพิพากษาฎีกาที่ 5432/2567 (เล่ม 9 หน้า 2010) ป.อ.มาตรา 336 ทวิ เป็นบทบัญญัติที่จะทำให้ผู้กระทำความผิดตามมาตรา 335 ต้องระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆกึ่งหนึ่ง หาใช่เป็นความผิดอีกบทหนึ่งต่างหาก คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 335(7) วรรคหนึ่ง ลักษณะความผิดตาม ป.อ. มาตรา 335 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ไม่แตกต่างกัน และมีระวางโทษขั้นต่ำจำคุกตั้งแต่ 1 ปีเหมือนกัน ต่างกันเฉพาะระวางโทษขั้นสูงซึ่งมาตรา 335 วรรคหนึ่งจำคุก 5 ปี วรรคสองจำคุก 7 ปี ไม่ถือว่าเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 แก้บทลงโทษ จึงเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสอง ไม่เกินห้าปี คดีของจำเลยทั้งสองต้องห้ามมิให้โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง

จำเลยทั้งสองฎีกาพร้อมกับคำร้องขออนุญาตฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงในคดีที่ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำร้องขออนุญาตฎีกาของจำเลยทั้งสองว่า คดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาลงโทษจำคุก 6 ปี ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้บทและแก้โทษ เป็นกรณีแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฏีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ไม่ต้องขออนุญาตฎีกาและมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยทั้งสองเป็นการสั่งโดยผิดหลงและเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ ถือว่าไม่ได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามบทบัญญัติว่าด้วยการพิจารณาคดี ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยโดยให้เพิกถอนคำสั่งและการดำเนินการของศาลชั้นต้นที่ไม่ชอบเสียได้และให้ศาลชั้นต้นดำเนินการให้ถูกต้องตาม ป.วิ.อ.มาตรา 208(2) ประกอบด้วยมาตรา 225

(หมายเหตุ 1 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีที่จะถือว่าเป็นการแก้ไขมากตาม ป.วิ.อ.มาตรา 218 วรรคหนึ่ง นั้น จะต้องเป็นการแก้ทั้งบทลงโทษและจำนวนโทษที่ลง ซึ่งการแก้บทลงโทษนั้นมีความหมายถึงการเปลี่ยนแปลงบทลงโทษจากบทหนึ่งไปเป็นอีกบทหนึ่ง หรือเป็นการแก้วรรคในบทเดิม ซึ่งความผิดแต่ละวรรคมีโทษขั้นต่ำและขั้นสูงแตกต่างกันมากและลักษณะความผิดในแต่ละวรรคนั้นแตกต่างกัน

2 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 335(7)(10)วรรคสอง ประกอบมาตรา 336 ทวิ

3 ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 335(7)วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 336 ทวิ

4 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยข้างต้น โดยพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองและให้ยกคำร้องขออนุญาตฎีกาของจำเลยทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งคำร้องขออนุญาตฎีกาและฎีกาของจำเลยทั้งสองใหม่ตามรูปคดี)

(หลักกฎหมาย ป.วิ.อ.มาตรา 208, 218)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3634.เคยกระทำความผิดมาก่อน รอการลงโทษไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1855/2567 (เล่ม 4 หน้า 85) คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานเสพเมทแอมเฟตามีน และโจทก์บรรยายฟ้องในส่วนของการขอเพิ่มโทษว่า ก่อนคดีนี้ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2558 จำเลยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก 2 ปี 16 เดือน 15 วัน ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.1325/2558 ของศาลจังหวัดเดชอุดม จำเลยพ้นโทษคดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2560 ภายในกำหนดเวลาห้าปีนับแต่วันพ้นโทษ จำเลยกลับมากระทำความผิดในคดีนี้อีก ขอให้เพิ่มโทษจำคุกจำเลยหนึ่งในสามตามกฎหมาย โดยแนบข้อมูลทะเบียนราษฎรและรายละเอียดข้อมูลผู้ต้องขัง กรมราชทัณฑ์ ซึ่งระบุชัดเจนทั้งชื่อและชื่อสกุลจำเลย เลขประจำตัวประชาชนจำเลย ซึ่งมีข้อมูลว่าจำเลยถูกจำคุกตามคำพิพากษาและพ้นโทษโดยปล่อยตัวเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2560 กับมีรูปถ่ายจำเลยในเอกสารดังกล่าว ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องด้วย เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา ถือได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องรวมถึงรับว่าจำเลยเคยต้องโทษและพ้นโทษในคดีที่โจทก์อ้างเป็นเหตุขอให้เพิ่มโทษดังกล่าวด้วยแล้ว เมื่อคดีนี้ศาลจะลงโทษถึงจำคุกจึงอยู่ในเงื่อนไขที่จะเพิ่มโทษแก่จำเลยหนึ่งในสามของโทษที่ศาลกำหนดสำหรับความผิดคดีนี้ตาม ป.อ. มาตรา 92 และเมื่อจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนเกิน 6 เดือน จึงไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะรอการลงโทษให้แก่จำเลยได้ตาม ป.อ. มาตรา 56 ที่ศาลอุทธรณ์ไม่เพิ่มโทษจำเลยและรอการลงโทษจำคุกให้จำเลยจึงไม่ชอบ อย่างไรก็ตาม คดีนี้จำเลยกระทำความผิดเสพเมทแอมเฟตามีนซึ่งเป็นความผิดเพียงเล็กน้อยและคดีที่จำเลยเคยต้องโทษมาก่อนเป็นการกระทำความผิดเมื่อปี 2558 นับถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 8 ปีแล้ว อีกทั้งการลงโทษจำคุกในระยะสั้นไม่น่าจะเป็นผลดีแก่จำเลยและสังคม จึงเห็นควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวโดยนำเงื่อนไขเพื่อควบคุมความประพฤติตามมาตรา 56 แห่ง ป.อ. มาใช้แทนการลงโทษจำคุกตาม ป.ยาเสพติด มาตรา 166

(หมายเหตุ 1 จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนเกิน 6 เดือน จึงไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะรอการลงโทษให้แก่จำเลยได้ตาม ป.อ. มาตรา 56 ที่ศาลอุทธรณ์ไม่เพิ่มโทษจำเลยและรอการลงโทษจำคุกให้จำเลยจึงไม่ชอบ)

(หลักกฎหมาย ป.อ.มาตรา 56 , 92 ป.ยาเสพติด มาตรา 166)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ

3632.สั่งจ่ายเช็คตามหนังสือรับสภาพหนี้ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4410/2567 หนังสือรับสภาพหนี้มีข้อความชัดแจ้งว่า จำเลยยอมรับว่าเป็นหนี้โจทก์ 467,000 บาท จำเลยยอมชำระหนี้ดังกล่าวโดยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่โจทก์ จำเลยและโจทก์ลงลายมือชื่อในหนังสือดังกล่าวด้วย หนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าวจึงถือเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินที่โจทก์สามารถนำไปฟ้องร้องให้จำเลยรับผิดทางแพ่งได้โดยตรง การที่จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมตามหนังสือรับสภาพหนี้จึงเป็นการสั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค เนื่องจากลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขที่ให้ไว้แก่ธนาคารโดยจำเลยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น การกระทำของจำเลยจึงครบองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 (1)

(หลักกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 ม. 4 (1))

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดอบรม หลักสูตร “ทนายความผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อและเอกสาร” รุ่นที่ 52 (ส่วนภูมิภาค) จังหวัดภูเก็ต

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2568 ที่โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ ถนนพังงา ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต : ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ เป็นประธานกล่าวเปิดการอบรมหลักสูตร “ทนายความผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อและเอกสาร” รุ่นที่ 52 (ส่วนภูมิภาค) จังหวัดภูเก็ต

โดยมี นายยุทธนา เนติศุภชีวิน กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 8 กล่าวรายงาน นอกจากนี้ยังมี นาย

ชัยวัฒน์ บุญเกื้อ นายทะเบียนสภาทนายความ นางสาวศรินทร เลืองวัฒนะวณิช อุปนายกฝ่ายต่างประเทศ และนายไพบูลย์ แย้มเอม อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ร่วมงานอบรมในครั้งนี้ด้วย

โดยได้รับการต้อนรับจาก นางรุ่งนภา พุฒแก้ว ประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต นายศิลปประเสริฐ คงยงค์ ประธานสภาทนายความจังหวัดกระบี่ นายอุดม ยกทอง ประธานสภาทนายความจังหวัดระนอง นายวันชัย บุญฤทธิ์ ประธานสภาทนายความจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวัชรินทร์ เพ็ชรัตน์ ประธานสภาทนายความจังหวัดทุ่งสง นายกฤษฎิ์ สุดถนอม ประธานสภาทนายความจังหวัดเกาะสมุย นายโรม จุไร ประธานสภาทนายความจังหวัดตะกั่วป่า และนายชลสิทธิ แก้วยะรัตน์ รองกรรมการบริหารสภาทนายความภาค 8

ซึ่งการอบรมหลักสูตรดังกล่าว จะสิ้นสุดในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2568 โดยได้รับความสนใจจากทนายความเข้าร่วมอบรมเป็นจำนวนมาก

 

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3631.อดีตพ่อเลี้ยงกระทำชำเราผู้เยาว์จะต้องรับโทษหนักขึ้นหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5524/2567 (เล่ม 9 หน้า 2038) แม้ขณะเกิดเหตุจำเลยไม่ได้อยู่กินฉันสามีภริยากับ ก. แล้ว และอำนาจปกครองของผู้เสียหายตามกฎหมายเป็นของ ก. ก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่า ขณะเกิดเหตุ ก. พาผู้เสียหายไปฝากให้พักอาศัยอยู่กับจำเลยซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายเคยพักอาศัยอยู่กับจําเลยหลายปีโดยจำเลยอุปการะเลี้ยงผู้เสียหายเสมือนเป็นบิดา เช่นนี้ พฤติการณ์ล่วงละเมิดทางเพศที่จำเลยกระทำต่อผู้เสียหายจึงมีลักษณะเป็นการกระทำที่จำเลยมีอำนาจบังคับเหนือผู้เสียหาย ซึ่งก่อนเกิดเหตุเคยอยู่ในความอุปการะของจำเลย และขณะเกิดเหตุ ก. ได้ฝากให้ผู้เสียหายอยู่ในความดูแลของจำเลย ทำให้ผู้เสียหายต้องมีความเคารพยำเกรงและเชื่อฟังจำเลย ผู้เสียหายจึงเป็นผู้อยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่นใดของจำเลยตามความหมายของ ป.อ. มาตรา 285 แล้ว ดังนี้ เมื่อจำเลยพยายามกระทำชำเราผู้เสียหายในระหว่างที่ผู้เสียหายอยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่นใดของจำเลยแล้ว จำเลยจึงต้องรับโทษหนักขึ้น

(หลักกฎหมาย ป.อ. มาตรา 285)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849