นายกสภาทนายความฯกรรมการบริหารสภาทนายความภาค.5 และประธานสภาทนายความจังหวัดพะเยา เดินทางร่วมตรวจพิจารณารับรองหลักสูตรอนุปริญญานิติศาสตร์ของ มหาวิทยาลัยพะเยา

เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00-12.30 น. ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา จังหวัดพะเยา : ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ นายสงคราม สกุลพราหมณ์ อุปนายกฝ่ายบริหาร นายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการสภาทนายความ นายไพบูลย์ แย้มเอม อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ นายพรศักดิ์ สังข์สังวาลย์ กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 5 นายตรีเรก ศรีวิชัย ประธานสภาทนายความจังหวัดพะเยา และนายชยธวัช อติแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ นายอาสา เม้นแย้ม อดีตกรรมบริหารสภาทนายความภาค 5 เดินทางไปตรวจพิจารณารับรองหลักสูตรอนุปริญญานิติศาสตร์ของ มหาวิทยาลัยพะเยา โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์อุดม งามเมืองสกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา พร้อมคณะ ร่วมให้การต้อนรับ

จัดอบรมวิชาการ การดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ผ่านระบบ Onsite และ Online

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.30 น. ห้องประชุมชั้น 5 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ สถาบันพัฒนาวิชาชีพทนายความ ได้จัดอบรมวิชาการ การดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ผ่านระบบ Onsite และ Online โดย ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ มอบหมายให้นางสาวอัจฉรา แสงขาว กรรมการฝ่ายวิชาการและเลขานุการฝ่ายวิชาการ สภาทนายความ เป็นประธานเปิดการอบรมวิชาการ โดยมีนายสยุม ไกรทัศน์ กรรมการฝ่ายวิชาการ สภาทนายความ เป็นผู้กล่าวรายงานและพิธีกรดำเนินรายการ

การจัดอบรมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายปกาศิต เหลืองทอง อัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 บรรยายหัวข้อ “กฎหมายฟอกเงิน”ในการอบรมครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสมาชิกสภาทนายความอย่างท่วมท้น โดยมีทนายความเข้าอบรมทาง Onsite และ Online จำนวนกว่า 1,000 คน

 

 

นายกสภาทนายความมอบเงินสวัสดิการให้ความช่วยเหลือทนายความผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ พร้อมด้วยนายไพบูลย์ แย้มเอม อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ได้เดินทางไปจังหวัดเชียงราย เพื่อมอบเงินสวัสดิการให้แก่ทนายความที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในจังหวัดเชียงราย ที่ส่งผลกระทบต่อ

 

สำนักงาน/ที่พักอาศัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของกองทุนสวัสดิการทนายความ จำนวน 22 รายมี  รายชื่อทนายความที่ได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือ ดังนี้

นายธวัชชัย อภิวงศ์

นายธเนศ สิทธิธรรมวัติ

นายวิเชียร วรรณสุข

นายสุทัศน์ ชัยมงคล

นางสาวฐิติมา มณีพรม

นายปฏิญาณ ไชยอิ่นคำ

ว่าที่ ร.ต.วิทวัธ อนุรักษ์

นายไพโรจน์ บุญประเสริฐ

นายภาณุรักษ์ บุญธิมา

นายนพพล สุวรรณการ

นางลลิตา ดิศโยธิน

นางสาวธิดาลักษณ์ จักรน้อย

นายชนะ ปานปุย

นายอุทัย พานวงศ์วรรธน์

นายเนติโรฒ บุญมายอง

นายปฐม ศรีบุญมี

นายทรงยศ เลาหสินนุรักษ์

นายปรีดา แสงสร้อย

นายณฐกร กับปะหะ

นายนพนันท์ วงศ์สะอาด

นายกัณฑ์พจน์ สลีสองลม

นายสมพงษ์ กูลวงศ์

 

ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเป็นกำลังใจให้ทนายความทุกท่านสามารถฟื้นฟูชีวิตและการทำงานได้โดยเร็ว ซึ่งการให้ความช่วยเหลือด้านสวัสดิการเป็นนโยบายที่คณะกรรมการบริหารสภาทนายความชุดนี้ให้ความสำคัญ และในอนาคตจะมีการดำเนินการเพื่อส่งเสริมสวัสดิการของสมาชิกอย่างต่อเนื่องต่อไป

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3447.สหกรณ์สั่งจ่ายเช็คคืนเงินให้แก่สมาชิก ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน สหกรณ์ไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2565 (เล่ม 12 หน้า 85) จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล การกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 ต้องกระทำโดยการแสดงเจตนาในการกระทำความผิดผ่านทางจำเลยที่ 2 และที่ 3 ซึ่งเป็นผู้แทนของนิติบุคคลตาม ป.พ.พ.มาตรา 70 กล่าวคือ จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ประธานกรรมการสหกรณ์ และจำเลยที่ 3 เลขานุการร่วมกันลงลายมือชื่อ พร้อมประทับตราสำคัญของจำเลยที่ 1 ออกเช็คตามฟ้องเพื่อชำระหนี้เงินฝากคืนแก่โจทก์ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 ออกเช็คของจำเลยที่ 1 โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค เพราะจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิดว่าในวันที่ออกเช็คนั้น จำเลยที่ 1 ไม่มีเงินเพียงพอที่จะชำระเงินตามเช็คได้ จึงถือไม่ได้ด้วยว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลรู้ว่าในวันที่ออกเช็คนั้นจำเลยที่ 1 ไม่มีเงินอยู่ในบัญชีเพียงพอที่จะชำระเงินตามเช็คให้แก่โจทก์ได้ การกระทำของจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 และที่ 3 ดังกล่าว จึงเป็นการกระทำโดยขาดเจตนาในการกระทำความผิด จำเลยที่ 1 ย่อมไม่มีความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คตามที่โจทก์ฟ้อง กรณีนี้เป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี แม้จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ และจำเลยที่ 2 และที่ 3 เท่านั้นที่ฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 1 ด้วยได้ ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 215 มาตรา 213 และมาตรา 185 วรรคหนึ่ง

( หมายเหตุ 1 โจทก์เป็นสมาชิกและผู้ถือหุ้นของสหกรณ์จำเลยที่ 1 เบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 และที่ 3 ลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คธนาคาร ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2562

2 ในวันเดียวกันนั้น โจทก์นำเช็คดังกล่าวไปฝากเรียกเก็บเงินที่ธนาคาร ต่อมาวันที่ 25 สิงหาคม 2562 โจทก์ไปติดต่อธนาคารเพื่อตรวจสอบเช็ค ได้รับแจ้งจากพนักงานธนาคารว่าได้คืนเช็คให้จำเลยที่ 2 ไป

3 โจทก์จึงเดินทางไปที่สหกรณ์จำเลยที่ 1 เพื่อขอรับเช็คคืน จำเลยที่ 2 แจ้งให้โจทก์ทราบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นภายในสหกรณ์จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 และที่ 3 เพิ่งทราบข้อเท็จจริงในวันที่ 23 สิงหาคม 2562 ว่า จำเลยที่ 1 ไม่มีเงินในบัญชีเพียงพอชำระหนี้เงินฝากเช็คให้แก่โจทก์ได้ โจทก์ยืนยันว่าต้องการจะรับเช็คกลับคืน จำเลยที่ 2 จึงส่งมอบเช็คคืนให้แก่โจทก์

4 วันที่ 11 กันยายน 2562 โจทก์นำเช็คดังกล่าวไปเรียกเก็บเงิน ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามเป็นคดีนี้

5 จำเลยที่ 2 และที่ 3 นำสืบว่า ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คให้แก่โจทก์โดยเข้าใจว่า จำเลยที่ 1 มีเงินในบัญชีมากพอที่จะชำระเงินตามเช็คให้แก่โจทก์ได้ เนื่องจากในการดำเนินงานของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และที่ 3 ทราบสถานะทางการเงินของจำเลยที่ 1 ผ่านการประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์จำเลยที่ 1 โดยการรายงานข้อมูลและการจัดทำ เอกสารทางการเงินจากผู้จัดการสหกรณ์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

6 ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษากลับว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามฟ้อง

7 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยข้างต้น โดยพิพากษากลับให้ยกฟ้อง)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3446.คดีความผิดเกี่ยวกับเช็คไม่เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 888/2567 จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 (1) (2) และ (5) ประกอบ ป.อ. มาตรา 83 ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาให้รอการกำหนดโทษและคุมความประพฤติของจำเลยที่ 2 ไว้ มีกำหนด 2 ปี และกำหนดเงื่อนไขในการเยียวยาโจทก์ร่วม โดยให้จำเลยทั้งสองชดใช้เงินตามเช็คที่ค้างชำระอยู่แก่โจทก์ร่วมภายในระยะเวลารอการกำหนดโทษ โดยให้ชำระทุก 3 เดือน นับแต่วันฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เป็นต้นไป โดยนำมาวางต่อศาลชั้นต้นหรือโดยวิธีการที่ศาลชั้นต้นเห็นสมควรกำหนดตาม ป.อ. มาตรา 56 วรรคสอง (10) แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มิได้ระบุว่าจำนวนยอดหนี้ตามเช็คพิพาทที่ค้างชำระอยู่เป็นจำนวนเท่าใด จึงเป็นการยากที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวได้ ทั้งจำเลยทั้งสองได้โต้แย้งมาโดยตลอดว่าได้มีการชำระหนี้เงินต้นบางส่วนแก่โจทก์ร่วมแล้ว โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของโจทก์ร่วมหลายครั้งตามเอกสารหมาย ล.1 ถึง ล.4 แม้ศาลล่างทั้งสองจะฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ชำระหนี้ต้นเงิน แต่จำนวนยอดหนี้ที่จำเลยทั้งสองจะต้องรับผิดชดใช้แก่โจทก์ร่วมมีเพียงใดนั้น โจทก์ร่วมจะต้องไปฟ้องร้องบังคับเป็นคดีแพ่งต่างหาก ซึ่งในการพิจารณาคดีแพ่งดังกล่าวศาลไม่จำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีนี้อันเป็นคดีอาญา เนื่องจากการฟ้องร้องคดีแพ่งดังกล่าวเป็นสิทธิเรียกร้องที่ไม่ต้องอาศัยมูลความผิดทางอาญาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 แต่อย่างใด หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า คดีแพ่งดังกล่าวมิใช่คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ไม่อยู่ในบังคับบัญญัติมาตรา 46 แห่ง ป.วิ.อ. การกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติในการเยียวยาโจทก์ร่วมจึงไม่เป็นไปตามควรแก่กรณี

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

 

สภาทนายความฯ รับสมัครอบรมวิชาการ ✨ ฟรี‼️

📣ประกาศสถาบันพัฒนาวิชาชีพทนายความ สภาทนายความ📣

⚖ รับสมัครอบรมวิชาการ ✨ ฟรี‼️

👉 เรื่อง “ การดำเนินคดีตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ”

✅ การดำเนินคดี แพ่งก่อนฟ้องคดีอาญาฐานฟอกเงิน

✅ มูลฐานความผิดตามกฏหมายฟอกเงิน ( ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ )

✅ การดำเนินคดีอาญาความผิดฐานฟอกเงิน

 

👨🏻‍⚖️ เชิญพบกับ

🔸 ดร.วิเชียร ชุบไธสง

นายกสภาทนายความ

 

🔸 นายสุนทร พยัคฆ์

เลขาธิการสภาทนายความ

 

🔸 ดร.วิรัชพัชร เวธทาวริทธิ์ธร

อุปนายกฝ่ายวิชาการ สภาทนายความ

 

👨🏻‍🎓 วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ

🔸 นายปกาศิต เหลืองทอง

อัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1

 

🗓️ วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567

⏰ เวลา 13.30 – 16.30 น.

📍 ณ ห้องประชุม ชั้น 5 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

 

การลงทะเบียนมี 2 ช่องทาง 🔖

🪑 Onsite

🌎 Link ลงทะเบียน : https://forms.gle/sinMqMD4GFzAoDam6

—————————

💻 Online

🌏 Link ลงทะเบียน : https://forms.gle/rZoDgUXTi7JCFkXp8

—————————

ติดต่อสอบถาม: คุณพิมพ์ฉวี และคุณจิดาภา โทร. 06 4291 4640

⚖_______________⚖

ทีม STS LEGAL X ทนายคลายเส้น คว้าแชมป์ ฟุตบอล Lawyer’s Cup ประเภท 7 คน ครั้งที่ 3

เมื่อวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.00 น. ที่สนามฟุตบอลวิชุปา รามอินทรา กรุงเทพมหานคร : ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ได้เดินทางไปเป็นประธานปิดการแข่งขันและมอบถ้วยรางวัลในการแข่งขันฟุตบอล Lawyer‘s Cup ประเภท 7 คน ครั้งที่ 3 ของสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น จำนวน 16 ทีม โดยมีทนายความเข้าร่วมเชียร์และร่วมแข่งขันเกือบ 1,000 คน

🏆ผลการแข่งขันรางวัลฟุตบอลรายการ Lawyer‘s Cup ฟุตบอล 7 คน ครั้งที่ 3 ดังนี้🏆

1. รางวัลชนะเลิศ : ทีม STS LEGAL X ทนายคลายเส้น

2. รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 : ทีม AK Super rich

3. รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 : ทีม ลูกรพี 99

4. รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 3 : ทีม สำนักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ

5. รางวัลมารยาทยอดเยี่ยม : ทีม BU Connection

อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันครั้งนี้ได้เชิญนักฟุตบอลทนายความรุ่น 48 ถึงรุ่น 64 จนถึงรุ่นปัจจุบันเข้าร่วมแข่งขัน

นายกสภาทนายความ เป็นวิทยากรบรรยาย พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 หัวข้อ”ทวงหนี้อย่างไรไม่ติดคุก ‘

เมื่อวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา 08.45 – 10.45 น. ที่ห้องประชุม 1 อาคารเรียนรวมและศูนย์วัฒนธรรม (พุทธวิชชาลัย) มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร กรุงเทพมหานคร : ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ได้รับเกียรติให้เป็นวิทยากรบรรยาย พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 เรื่อง ”ทวงหนี้อย่างไรไม่ติดคุก“

โดยมี นายประชา ชัยสุวรรณ นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้สถาบันการเงิน กล่าวเปิดงาน นายนิพลฐ์ สุขภิบาล เลขาธิการสมาคมผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้สถาบันการเงิน ผู้ดำเนินรายการ นายวัชรินทร์ นิลโมจน์ รองนายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้สถาบันการเงิน เป็นวิทยากรบรรยายเรื่องกฎเกณฑ์ตามกฎกระทรวง และประกาศคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ ซึ่งมีสมาชิกจากสำนักงานกฎหมาย 41 สำนักงาน ลงทะเบียนเข้ารับการอบรมจำนวน 519 คน

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …


 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3445.พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบสำนวนคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2567 จำเลยฎีกาโต้เถียงว่าพนักงานสอบสวนในท้องที่เกิดเหตุคนใดจะเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบมีอำนาจสรุปสำนวนและทำความเห็นควรสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องส่งไปพร้อมกับสำนวนเพื่อให้พนักงานอัยการพิจารณาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 140 เป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมาย อันเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยในข้อนี้ จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3445.พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวนในคดีที่สมาชิกฟ้องกรรมการกลุ่มสัจจะออมทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2565 (เล่ม 12 หน้า 13) กลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ว. มีวัตถุประสงค์ให้สมาชิกออมเงิน แล้วนำเงินฝากของสมาชิกไปให้สมาชิกกู้ยืมโดยคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 2 บาทต่อเดือน แล้วนำดอกเบี้ยมาจ่ายเป็น สวัสดิการให้แก่สมาชิก ดอกเบี้ยดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 24 บาทต่อปี เกินกว่าร้อยละ 15 บาทต่อปี ต้องห้ามตาม ป.พ.พ. มาตรา 654 และ พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 มาตรา 3 ในขณะนั้น และ พ.ร.บ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 ที่ใช้บังคับภายหลัง ดังนี้ วัตถุประสงค์ในการดำเนินการกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ว. จึงต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายและขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนตกเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 150 สมาชิกทุกรายที่เข้าร่วมฝากเงินและกู้ยืม รวมทั้งชำระดอกเบี้ยในอัตราดังกล่าวหรือเมื่อผิดนัดยินยอมให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยการนำต้นเงินและดอกเบี้ยค้างชำระที่ฝ่าฝืนกฎหมายรวมเข้ากันแล้วคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือนต่อไป ซึ่งเกินกว่า ระเบียบข้อบังคับกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ว. ฉบับปรับปรุง 2549 ข้อ 23 รวมถึงการส่งมอบเงินฝาก รับเงินกู้ยืม เงินกำไร หรือปันผล ดอกเบี้ยของสมาชิกในทุกขั้นตอนตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวเป็นการร่วมกันกระทำการอันต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย ทั้งขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนซ้ำซ้อน โจทก์ร่วมและผู้เสียหายซึ่งเป็นสมาชิก จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 20 ไม่มีสิทธิร้องทุกข์ในความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ดังกล่าวซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัวอันยอมความได้ ตาม ป.อ. มาตรา 356 พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจสอบสวนตาม ป.วิ.อ. มาตรา 121 วรรคสอง และพนักงานอัยการโจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 215 และมาตรา 225 ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง

(หมายเหตุ 1 กลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ว. มีสมาชิก 1,897 คน มีจำเลยทั้งสิบสี่คนเป็นกรรมการ

2 ต่อมา ส.กับพวกลาออกจากสมาชิกกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ว. แต่ไม่ได้รับเงินฝากคืนจากจำเลยทั้งสิบสี่ ต่อมา ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2557 ส.ในฐานะส่วนตัวและผู้รับมอบอำนาจจากสมาชิกกลุ่มไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่จำเลยทั้งสิบสี่ ในข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์

3 พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาแก่จำเลยทั้งสิบสี่ว่า เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่น กระทำผิดหน้าที่ของตนด้วยประการใดๆ โดยทุจริตจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของผู้นั้น

4 พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสิบสี่ตาม ป.อ. มาตรา 352 ,353 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง

5 ศาลฎีกาพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

6 ก่อนคดีนี้ โจทก์ร่วมเคยเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสิบสี่ให้ร่วมกันชำระ เงินฝากคืนพร้อมดอกเบี้ยต่อศาลชั้นต้น

7 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ และจำเลยทั้งสิบห้าไปว่ากล่าวกันต่อไปตามสิทธิ หลังจากได้มีการชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนแล้วตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 135/2559

8 ต่อมา โจทก์ร่วมกับพวกฟ้องจำเลยทั้งสิบสี่ และมีคำขอให้ศาลพิพากษาให้เลิกห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ว. คู่ความได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลมีคำพิพากษาตามยอม มีการชำระบัญชีของกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ว. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงมาฟ้องเป็นคดีนี้)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849