ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3455.บรรยายฟ้องแยกการกระทำความผิด จะเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 89/2567 คดีนี้แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องแยกการกระทำผิดของจำเลยกับพวกมาเป็นข้อ ๆ โดยมีคำขอท้ายฟ้องตาม ป.อ. มาตรา 91 และจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องก็ตาม แต่เมื่อพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์แห่งคดีจากข้อเท็จจริงตามฟ้องแล้วปรากฏว่า จำเลยกับพวกมีเจตนาประการเดียวคือมุ่งประสงค์ที่จะหลอกลวงผู้เสียหายที่ 3 โอนเงินชำระค่าสินค้าที่จำเลยที่ 1 ตกลงสั่งซื้อนั้นเอง ความผิดฐานร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ฐานร่วมกันแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ฐานโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ฐานร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นฐานร่วมกันปลอมเอกสารและฐานร่วมกันใช้เอกสารปลอม จึงเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ตาม ป.อ. มาตรา 90 หาใช่เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันตามมาตรา 91 ตามที่โจทก์อ้างในฎีกา

ส่วนปัญหาที่ว่า มีเหตุสมควรลงโทษจำเลยสถานหนักหรือไม่ ปัญหาดังกล่าวโจทก์มิได้อุทธรณ์ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วโดยมิชอบในศาลอุทธรณ์ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่งและมาตรา 252 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3454.ชักชวนให้เล่นการพนันหลายประเภท ผิดหลายกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 745/2567 การที่จำเลยทั้งสามร่วมกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันไพ่บาการาและจัดให้มีการเล่นพนันไพ่บาการา มีเจตนาเดียวกันคือให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันไพ่บาการาเพื่อจำเลยทั้งสามจะได้ผลกำไรจากการที่บุคคลต่าง ๆ เข้าเล่นการพนัน การกระทำส่วนนี้จึงเป็นกรรมเดียวกัน ส่วนการที่จำเลยทั้งสามร่วมกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันสล๊อทแมชีน และจัดให้มีการเล่นพนันสล็อทแมชีน ก็มีเจตนาเดียวกันคือให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันสล๊อทแมชีน เพื่อจำเลยทั้งสามจะได้ผลกำไรจากการเล่นการพนัน การกระทำส่วนนี้จึงเป็นกรรมเดียวกันเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามการพนันไพ่บาการาและสล๊อทแมชีน เป็นการพนันคนละประเภท ลักษณะและวิธีการเล่นแตกต่างกัน การเล่นการพนันแต่ละประเภทต่างเป็นความผิดอยู่ในตัวเองไม่เกี่ยวข้องกัน การที่จำเลยทั้งสามร่วมกันประกาศโฆษณาชักชวนและจัดให้มีการเล่นการพนันทั้งสองประเภทดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการกระทำผิดสองกรรม

(หมายเหตุ 1 จำเลยทั้งสามฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุก ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัจจุบันการพนันออนไลน์แพร่ระบาดทั่วไปโดยเฉพาะในหมู่นักเรียนนักศึกษาอันมีส่วนสำคัญในการมอมเมาเยาวชนของชาติให้ลุ่มหลงในอบายมุข มีผลกระทบโดยตรงต่อการศึกษาและบั่นทอนอนาคตของเยาวชน เป็นการทำลายทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่าอันเป็นความหวังของชาติ พฤติการณ์แห่งคดีถือว่ากระทำผิดเป็นขบวนการ นับเป็นการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวมอย่างชัดเจน สร้างความเสียหายในทางเศรษฐกิจและก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อสังคมในวงกว้างไม่สมควรให้เป็นเยี่ยงอย่าง ที่จำเลยทั้งสามกล่าวอ้างทำนองว่า เนื่องจากมีสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้จำเลยทั้งสามไม่มีรายได้จึงจำเป็นต้องกระทำความผิดดังกล่าวโดยเพิ่งเข้าทำงานได้ไม่นานก่อนถูกจับกุม หรือเหตุผลอื่นที่ยกขึ้นกล่าวอ้างในฎีกา ล้วนเป็นเหตุผลและความจำเป็นส่วนตัวของจำเลยแต่ละคนเท่านั้น)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3453.ชักชวนเล่นการพนันออนไลน์เป็นการกระทำความผิดฐานอั้งยี่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2567 สำหรับความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ โจทก์บรรยายฟ้องว่าเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 เวลากลางวัน จำเลยทั้งยี่สิบร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายร่วมกันประชุมในที่ประชุมอั้งยี่และกระทำความผิดตามความมุ่งหมายของอั้งยี่ โดยร่วมกันจัดให้มีการเล่น ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนทางเว็บไซต์ http://www.biz99.bet/ โดยชักชวนผู้ที่ต้องการเล่นพนันบอลออนไลน์ บาการาออนไลน์ และสล็อตออนไลน์ให้สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ดังกล่าวด้วยข้อความประกาศที่หน้าเว็บไซต์ที่ว่า “เว็บไซต์ออนไลน์ แทงบอล บาการา สล็อต ฝาก ถอน ออโต 1 วิ มีโปรโมชั่น กิจกรรม เครดิตฟรี มากที่สุด” โดยบาการาออนไลน์ เป็นการพนันที่ระบุในบัญชี ก. หมายเลข 27 สล็อตออนไลน์เป็นการพนันที่ระบุในบัญชี ข. หมายเลข 28 และบอลออนไลน์ เป็นการพนันตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 จำเลยทั้งยี่สิบร่วมกันรับเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายและอยู่ด้วยในที่ประชุมขณะกระทำความผิด ไม่ได้คัดค้านในการกระทำความผิดนั้น ตามฟ้องดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจำเลยทั้งยี่สิบรู้อยู่แล้วว่าคณะบุคคลที่ตนเป็นสมาชิกมีความมุ่งหมายเพื่อร่วมกันจัดให้มีการเล่น ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนทางเว็บไซต์สำหรับผู้ที่ต้องการเล่นพนันบอลออนไลน์ บาการาออนไลน์ และสล็อตออนไลน์ให้สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ดังกล่าวโดยจำเลยทั้งยี่สิบต่างร่วมกันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และทราบข้อกฎหมายซึ่งรู้กันอยู่ทั่วไปว่า บาการาออนไลน์ สล็อตออนไลน์ และบอลออนไลน์ ล้วนแต่เป็นการพนันที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานอันเป็นการกระทำที่มีความมุ่งหมายโดยเจตนาให้ผิดต่อกฎหมายอยู่ในตัวแล้ว โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายคำฟ้องว่าจำเลยทั้งยี่สิบรู้อยู่ก่อนแล้วโดยเจตนาว่าเป็นการเล่นพนันที่มิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายตามคำฟ้องของโจทก์จึงเป็นการบรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยทั้งยี่สิบได้กระทำความผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยทั้งยี่สิบเข้าใจข้อหาได้ดี ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) ประกอบ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 และ พ.ร.บ. ให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. 2520 มาตรา 3 แล้ว ส่วนการที่จำเลยทั้งยี่สิบยื่นใบสมัครต่อบุคคลใดตั้งแต่เมื่อใด มิใช่องค์ประกอบความผิด และเป็นรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณา แต่เมื่อจำเลยทั้งยี่สิบให้การรับสารภาพ ย่อมแสดงว่าจำเลยทั้งยี่สิบเข้าใจข้อหาตามคำฟ้องแล้ว โจทก์หาจำต้องบรรยายมาในคำฟ้องไม่ คำฟ้องโจทก์จึงครบองค์ประกอบความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่แล้ว สำหรับการปกปิดวิธีการดำเนินการตามคำฟ้องก็เป็นเรื่องวิธีการหรือขั้นตอนในการกระทำความผิดฐานร่วมกันเป็นอังยี่ส่วนการร่วมกันจัดให้มีการเล่น ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนทางเว็บไซต์ผู้ที่ต้องการเล่นการพนันออนไลน์ก็เป็นวิธีการหรือขั้นตอนอย่างหนี่งในการกระทำความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ด้วยเหมือนกัน หาได้ขัดแย้งและเป็นฟ้องเคลือบคลุมแต่อย่างใดไม่

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

นายกสภาทนายความ เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา Mini Lawyer Cup เชื่อมสัมพันธ์ สภาทนายความภาค 3 ( จังหวัดศรีสะเกษ)

เมื่อวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2567 เวลา 16.00 น. ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ : ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา Mini Lawyer Cup เชื่อมสัมพันธ์ สภาทนายความภาค 3

โดยมีนายบุญประเสริฐ นวลสาย ประธานสภาทนายความจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต้อนรับ นายวีระศักดิ์ บุญเพลิง กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 3 กล่าวรายงาน ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายเชี่ยวชาญ ศิริศักดิ์เสนา ประธานสภาทนายความจังหวัดอุบลราชธานี นายคำพันธ์ วรรณโท ประธานสภาทนายความจังหวัดเดชอุดม นายไพศาล ยศธรกีรติ ประธานสภาทนายความจังหวัดยโสธร นายวุฒิกาญจน์ กุลสุวรรณ ประธานสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา นายนราธิป สิงขรอาสน์ ประธานสภาทนายความจังหวัดชัยภูมิ นายประสิทธิ์ศักดิ์ ฝอยทอง ประธานสภาทนายความจังหวัดกันทรลักษ์ นายสัมฤทธิ์ แดงมันฮับ ประธานสภาทนายความจังหวัดสุรินทร์ นายธรรมกาญจน์ สังวาลย์ ประธานสภาทนายความจังหวัดรัตนบุรี นายวิทยา วัฒนะ ประธานสภาทนายความจังหวัดนางรอง

นายเสถียรพงศ์ เที่ยงตรง ประธานสภาทนายความจังหวัดภูเขียว นายสมศักดิ์ นาคสมบูรณ์ ประธานสภาทนายความจังหวัดพิมาย และนายสุเนตร แก้วอมตะวงศ์ รองการกรรมการสภาทนายความภาค 3 พร้อมทนายความในภาค 3 กว่า 300 คน เข้าร่วมทำการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งมีการแข่งขันกีฬา ฟุตบอล วอลเลย์บอล แบดมินตัน ตะกร้อและเปตอง

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3452.ถอนฟ้องแล้วนำมาฟ้องใหม่ไม่ทำให้สิทธินำคดีมาฟ้องระงับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1351/2567 โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงนครสวรรค์เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2097/2563 ขอให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 326, 328 ซึ่ง ป.อ. มาตรา 328 มีระวางโทษเกินอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแขวงนครสวรรค์ ภายหลังโจทก์ขอถอนฟ้องเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์ซึ่งเป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา ศาลแขวงนครสวรรค์มีคำสั่งอนุญาต และหลังจากนั้น 6 วัน โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์ การถอนฟ้องของโจทก์จึงมิใช่การถอนฟ้องเด็ดขาด สิทธินำคดีอาญามาฟ้องไม่ระงับ

ความผิดตาม ป.อ. มาตรา 328 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท เกินอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแขวงนครสวรรค์ที่จะพิจารณาตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมมาตรา 17 ประกอบมาตรา 25 (5) แม้ศาลแขวงนครสวรรค์อาจปรับบทลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 326 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ที่ผู้พิพากษาคนเดียวมีอำนาจพิจารณาคดี อันเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแขวงนครสวรรค์ และเป็นความผิดที่รวมอยู่ในความผิดตามฟ้อง แต่ข้อกฎหมายดังกล่าวเป็นเรื่องการพิพากษาหรือสั่งเกินคำขอที่มิได้กล่าวในฟ้อง เป็นคนละกรณีกับอำนาจพิจารณาพิพากษาศาลแขวงนครสวรรค์ และการจะปรับบทลงโทษจำเลยในการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่พิจารณาได้ความตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 นั้น ศาลจะต้องมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีเสียก่อน เมื่อศาลแขวงนครสวรรค์ไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี ก็ไม่อาจปรับบทลงโทษตามบทบัญญัติดังกล่าวได้

แม้คดีส่วนแพ่งมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท แต่คดีส่วนแพ่งเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา การพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 46 ทั้งเป็นส่วนหนึ่งของคดีอาญา เมื่อโจทก์อุทธรณ์คดีในส่วนอาญา ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีส่วนแพ่งได้โดยโจทก์ไม่จำต้องขออนุญาตอุทธรณ์คดีส่วนแพ่ง

(หมายเหตุ 1 คดีนี้จำเลยฎีกาว่า โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลแขวงนครสวรรค์ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 แต่ความผิดดังกล่าวมีความผิดฐานหมิ่นประมาทตาม ป.อ. มาตรา 326 ซึ่งอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแขวงนครสวรรค์รวมอยู่ด้วย ศาลแขวงนครสวรรค์จึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาการถอนฟ้องต่อศาลแขวงนครสวรรค์แล้วนำคดีมาฟ้องใหม่ต่อศาลชั้นต้นในความผิดเดียวกัน การกระทำครั้งเดียวของจำเลยเป็นผลให้จำเลยต้องถูกดำเนินคดีหลายครั้งไม่รู้จักจบสิ้น จึงต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าว

2. ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การจะปรับบทลงโทษจำเลยในการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่พิจารณาได้ความตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 นั้น ศาลจะต้องมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีเสียก่อน เมื่อศาลแขวงนครสวรรค์ไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาก็ไม่อาจปรับบทลงโทษตามบทบัญญัติดังกล่าวได้

3. จำเลยฎีกาว่า คดีส่วนแพ่งมีทุนทรัพย์ในชั้นอุทธรณ์ไม่เกิน 50,000 บาท ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง

4 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีส่วนแพ่งของโจทก์เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา เมื่อโจทก์อุทธรณ์คดีในส่วนอาญา ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีส่วนแพ่งได้โดยโจทก์ไม่จำต้องขออนุญาตอุทธรณ์คดีส่วนแพ่ง

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3451.ความหมายของคำว่า “หนังสือพิมพ์”ตาม ป.อ.มาตรา 332

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 976/2567 (ประชุมใหญ่) ป.อ. มาตรา 332 (2) เป็นบทกฎหมายที่ให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจสั่งให้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ได้เองตามความเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดี ไม่ว่าโจทก์จะมีคำขอหรือไม่ และคำว่า “หนังสือพิมพ์” ย่อมปริวรรตไปตามยุคสมัย มิได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะหนังสือพิมพ์ที่พิมพ์ขึ้นโดยใช้กระดาษ แต่ยังมีความหมายรวมถึงข้อมูลข่าวสารเป็นตัวหนังสือที่ประชาชนทั่วไปสามารถอ่านเข้าใจได้ซึ่งเผยแพร่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ด้วย คดีนี้จำเลยกระทำผิดด้วยการเผยแพร่ภาพเคลื่อนไหวและข้อความเสียงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ผ่านทางเว็บไซต์ยูทูบและเฟซบุ๊กซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเลยเผยแพร่ได้เป็นจำนวนมาก และอาจมีการเผยแพร่ซ้ำหรือเผยแพร่ต่อไปอีกอย่างกว้างขวาง การเยียวยาความเสียหายแก่โจทก์ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย จึงต้องให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย เพื่อทำให้ชื่อเสียงของโจทก์กลับคืนดีด้วยการเผยแพร่คำพิพากษาโดยย่อผ่านทางเว็บไซต์ข่าวออนไลน์อีกช่องทางหนึ่งด้วย จึงเห็นสมควรให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาโดยย่อในหนังสือพิมพ์ที่แพร่หลาย 2 ฉบับเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน กับให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาโดยย่อผ่านทางเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ที่แพร่หลายอีก 2 เว็บไซต์ด้วย โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา

(หมายเหตุ 1 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามอันจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตาม ป.อ. มาตรา 326 และมาตรา 328 นั้น จะต้องได้ความว่า การใส่ความดังกล่าวได้ระบุถึงตัวบุคคลผู้ถูกใส่ความเป็นการยืนยันรู้ได้แน่นอนว่าผู้ถูกใส่ความเป็นใคร หรือหากไม่ระบุถึงผู้ที่ถูกใส่ความโดยตรงก็ต้องได้ความว่าหมายถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ และต้องพิจารณาถ้อยคำที่ผู้ใส่ความกล่าวถึงทั้งหมดรวมกัน โดยจะพิจารณาเพียงถ้อยคำเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้

2 ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่ให้ความหมายของคำว่า “หนังสือพิมพ์” ตาม ป.อ.มาตรา 332 รวมถึงเว็บไซด์ข่าวสารออนไลน์ด้วย โดยมีคำวินิจฉัยข้างต้น

3 ส่วนประเด็นเรื่องการรอการลงโทษ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยหมิ่นประมาทโจทก์โดยการโฆษณาผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊กและยูทูบ ทำให้ข้อความหมิ่นประมาทแพร่หลายสู่สาธารณชนอย่างกว้างขวางและรวดเร็วเป็นที่เสียหายแก่โจทก์อย่างยิ่ง พฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดของจำเลยนับว่าร้ายแรง อย่างไรก็ดียังมีถ้อยคำของจำเลยบางส่วนที่แสดงออกถึงความห่วงใยปัญหาบ้านเมืองแสดงให้เห็นเจตนาที่ดีของจำเลยอยู่บ้าง จำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน ความประพฤติไม่มีข้อเสื่อมเสีย ทั้งยังมีการศึกษาสูงและมีประสบการณ์ในการทำงานหลายด้าน สมควรที่จำเลยจะใช้ความรู้ความสามารถให้เป็นประโยชน์แก่สังคมยิ่งกว่าการถูกจำคุกในระยะสั้น ที่ศาลชั้นต้นให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีโดยรอการลงโทษมานั้น ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ

3450.ซื้อดาวน์รถยนต์ที่เช่าซื้อจากผู้เช่าซื้อ แล้วนำไปขายเป็นความผิดฐานรับของโจรหรือยักยอกทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1522/2565 (เล่ม 12 หน้า 73) ความผิดฐานรับของโจรเป็นความผิดที่เกิดจากการกระทำอันเป็นการอุปการะความผิดฐานยักยอกหรือความผิดอื่น ดังที่บัญญัติไว้ใน ป.อ. มาตรา 357 เช่น ช่วย ซื้อ จำหน่าย หรือรับไว้โดยประการอื่นใด ความผิดฐานรับของโจรจึงต้องเกิดหลังจากมีการกระทำความผิดฐานยักยอก เมื่อ ส.ทำสัญญาซื้อขายดาวน์รถแทรกเตอร์แล้ว จำเลย และ ส. ร่วมกันนำรถแทรกเตอร์ของโจทก์ร่วมไป เป็นการร่วมกันรับมอบการครอบครองรถแทรกเตอร์จากโจทก์ร่วม อันเป็นส่วนหนึ่งในการกระทำความผิดฐานยักยอก เมื่อต่อมาปรากฏว่า รถแทรกเตอร์ดังกล่าวไปอยู่ประเทศกัมพูชา แสดงว่าจำเลยหรือ ส. ขายรถแทรกเตอร์ไปหรือแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น และจำเลยบ่ายเบี่ยงว่ามิได้รับมอบรถแทรกเตอร์ ถือว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต จำเลยจึงมีความผิดในฐานะเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดกับ ส. ในความผิดฐานยักยอก กรณีมิใช่ ส. ยักยอกรถแทรกเตอร์ของโจทก์ร่วมก่อนแล้วจำเลยกระทำอันเป็นการอุปการะความผิดฐานยักยอก ช่วย ซื้อ จำหน่าย หรือรับไว้โดยประการอื่นอันเป็นความผิดฐานรับของโจร ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 การปรับบทกฎหมายให้ถูกต้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาย่อมปรับบทกฎหมายให้ถูกต้องได้ ตาม ป. วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบด้วย มาตรา 225

(หมายเหตุ 1 โจทก์ โจทก์ร่วม ลงโฆษณาในแอปพลิเคชั่นเฟสบุ๊กส์ประกาศขายดาวน์รถแทรกเตอร์ ราคา 100,000 บาท

2 วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2562 ส. โทรศัพท์ติดต่อโจทก์ร่วมขอซื้อและมาดูรถที่บ้านของโจทก์ร่วม แล้วโทรศัพท์ ไปหาจำเลยกับพวก มีคนขับรถบรรทุกมาที่บ้านของโจทก์ร่วม โดยจำเลยนั่งโดยสารมาด้วย เมื่อส. ทำสัญญาซื้อขาย กับโจทก์ร่วมแล้วได้นำรถแทรกเตอร์ขึ้นรถบรรทุกขับไป

3 ส. ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อ 2 งวด แล้วไม่ชำระอีก โจทก์ร่วมไปที่บ้าน ส. ส. บอกว่ารถแทรกเตอร์อยู่ที่จำเลย และปรากฏต่อมาว่ารถแทรกเตอร์ไปอยู่ที่ประเทศกัมพูชา

4 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง และเพิกถอนคำสั่งที่อนุญาตเข้าเป็นโจทก์ร่วม

5 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 357 วรรคแรก จำคุก 2 ปี

6 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยข้างต้น พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 352 วรรคแรก จำคุก 2 ปี)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

นายกสภาทนายความและประธานกรรมการมรรยาททนายความ เข้าชี้แจงและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกรรมาธิการวุฒิสภา     

เมื่อวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เวลา 15.00 น. ที่ ห้องประชุม 401 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา : ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ นายคณิต วัลยะเพ็ชร์ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ และนายอุทัย ไสยสาลี หัวหน้าสำนักงานสภาทนายความ เข้าชี้แจงและร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะกรรมาธิการกฎหมาย และการยุติธรรม วุฒิสภา ในประเด็น “การควบคุมมรรยาททนายความ” และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการดำเนินการตามนโยบายด้านกฎหมาย การบริหารงานยุติธรรม กระบวนการยุติธรรม ตำรวจ อัยการ และราชทัณฑ์ โดยมี พลตำรวจโท บุญจันทร์ นวลสาย เป็นประธานกรรมาธิการ และประธานในที่ประชุม

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3449.ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อไม่เหมาะสมกับการใช้งาน ผู้ให้เช่าซื้อไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786/2567 สัญญาเช่าซื้อเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อไม่เหมาะสมแก่การใช้งาน จำเลยมีสิทธิบ่ายเบี่ยงไม่ชำระค่าเช่าซื้อแก่โจทก์ได้โดยไม่ถือว่าผิดนัด โจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา การที่โจทก์ติดตามทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนจากจำเลยและจำเลยมิได้โต้แย้ง สัญญาเช่าซื้อจึงเลิกกันโดยปริยาย เมื่อเหตุแห่งการสิ้นสุดของสัญญาสืบเนื่องมาจากความผิดของโจทก์ที่ไม่ได้ดำเนินการเพื่อให้จำเลยจดทะเบียนรถที่เช่าซื้อต่อกรมการขนส่งทางบกและได้ความว่าเอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนสูญหายไป การที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจเพิกเฉยต่อการจดทะเบียนรถที่เช่าซื้อให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยไม่ปรากฏจากข้อนำสืบของโจทก์ว่าตามปกติประเพณีในการทำสัญญาเช่าซื้อที่ถือปฏิบัติกันมาผู้ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อรถบรรทุกหรือรถหางพ่วงพร้อมอุปกรณ์โดยทั่วไปจะถือว่าตนมีหน้าที่เพียงส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อให้ใช้ประโยชน์เท่านั้น ส่วนการดำเนินการทางทะเบียนและเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนซึ่งตนเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์จะมีอยู่และต้องจัดการอย่างไรไม่ใช่ข้อสำคัญที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องคำนึงถึงดังเช่นที่โจทก์ปฏิบัติ ประกอบกับปรากฏว่าเอกสารต่าง ๆ ของสัญญาเช่าซื้อที่โจทก์ทำกับผู้บริโภครายอื่นสูญหายอีกจำนวนมาก ข้อเท็จจริงที่กล่าวมานับว่าการประกอบธุรกิจของโจทก์ย่อหย่อนมิได้กระทำไปด้วยความสุจริตโดยคำนึงถึงมาตรฐานทางการค้าที่เหมาะสมภายใต้ระบบธุรกิจที่เป็นธรรมตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 12 ดังนี้ เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกันโดยปริยายกับทั้งโจทก์มีพฤติการณ์ในการประกอบธุรกิจดังที่วินิจฉัยมาข้างต้น จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าขาดราคา เบี้ยปรับ ค่าติดตามรถบรรทุกที่เช่าซื้อให้แก่โจทก์

(หมายเหตุ 1 ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้ออีซูซุและรถหางพ่วงพร้อมอุปกรณ์จากโจทก์ แต่จำเลยไม่ได้ชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่งวดแรก โจทก์จึงมีหนังสือบอกกล่าวทวงถามและบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลย และโจทก์ติดตามรถบรรทุกสิบล้อที่เช่าซื้อและรถหางพ่วงกลับคืนจากจำเลย โดยรถบรรทุกสิบล้อและรถหางพ่วงมีสภาพชำรุดทรุดโทรม

2 ทางพิจารณาได้ความว่า ภายหลังจากทำสัญญาเช่าซื้อโจทก์เพียงส่งมอบรถบรรทุกสิบล้อและรถหางพ่วงพร้อมอุปกรณ์ให้จำเลยครอบครองใช้สอยตามสัญญาเท่านั้น แต่โจทก์มิได้จดทะเบียนรถหรือดำเนินการใดเพื่อให้จำเลยจดทะเบียนรถที่เช่าซื้อต่อกรมการขนส่งทางบกได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนสูญหาย ซึ่งจำเลยถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมและเปรียบเทียบปรับอยู่เป็นประจำ

3 และยังได้ความอีกว่าเอกสารต่าง ๆ ของสัญญาเช่าซื้อที่โจทก์ทำไว้กับผู้บริโภครายอื่นยังมีเอกสารสูญหายอีกจำนวนมากจนโจทก์ต้องไปลงบันทึกประจำวันรับแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

4 ศาลอุทธรณ์ภาค 4 แผนกคดีผู้บริโภค พิพากษาว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดชำระค่าขาดราคา เบี้ยปรับและค่าติดตามรถบรรทุกที่เช่าซื้อแก่โจทก์นั้น โดยพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยชำระค่าขาดประโยชน์ให้แก่โจทก์เป็นเงิน161,000 บาท

5 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อไม่เหมาะสมแก่การใช้งาน โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยชอบที่จะบ่ายเบี่ยงไม่ชำระค่าเช่าซื้อแก่โจทก์ตาม ป.พ.พ.มาตรา 369 โดยไม่ถือว่าจำเลยผิดนัด และโจทก์ผู้ผิดสัญญาไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาต่อจำเลยได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 386 สัญญาเช่าซื้อจึงมิได้เลิกกันตามที่โจทก์บอกเลิกสัญญา

6 ส่วนค่าขาดประโยชน์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เป็นค่าเสียหายที่โจทก์คาดคิดเองโดยไม่มีเอกสารหลักฐานมาสนับสนุนว่า โจทก์นำรถยนต์ที่เช่าซื้อออกให้บุคคลใดเช่าและได้รับค่าเช่าในอัตราที่กล่าวอ้างทุกเดือน เมื่อโจทก์ไม่อาจนำสืบให้เห็นถึงค่าเสียหายตามที่โจทก์เรียกร้อง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 เห็นพ้องกันกับศาลชั้นต้นไม่กำหนดค่าเสียหายเป็นค่าขาดประโยชน์ให้เต็มตามคำขอของโจทก์จึงชอบแล้ว)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3448.ผ่อนชำระหนี้ตามเช็คไม่ทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2567 (เล่ม 1 หน้า 154) มูลหนี้ตามเช็คในคดีนี้เป็นเรื่องที่จำเลยออกเช็คพิพาทสั่งจ่ายเงิน 1,200,000 บาท เพื่อชำระหนี้กู้ยืม หลังจากธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยจึงได้ชำระเงินสด 300,000 บาท และนำเช็คสามฉบับ ฉบับละ 75,000 บาท ไปมอบให้แก่โจทก์ ต่อมาโจทก์นำเช็คทั้งสามฉบับเรียกเก็บเงินและได้รับเงินตามเช็คทั้งสามฉบับครบถ้วนแล้ว โดยโจทก์ได้รับการชำระหนี้จากจำเลยในส่วนนี้เพียง 525,000 บาท จำเลย ยังคงต้องชำระหนี้ที่กู้ยืมส่วนที่เหลืออีก 675,000 บาท โจทก์จึงมาฟ้องเป็นคดีนี้อันแสดงให้เห็นได้ว่า โจทก์ยังประสงค์ จะบังคับตามเช็คพิพาทต่อไป ซึ่งการที่โจทก์รับเงินสดและเช็คทั้งสามฉบับที่จำเลยนำไปมอบให้โจทก์หลังธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ก็ไม่ได้มีข้อตกลงว่าโจทก์ไม่ประสงค์เรียกร้องหนี้ที่ยังไม่ได้รับชำระหรือไม่ติดใจเรียกร้องหนี้ตามเช็คพิพาทต่อไป กรณีจึงไม่เป็นการยอมความกันอันทำให้สิทธิที่จะดำเนินคดีอาญาของโจทก์ระงับไป ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 39(2)

(หมายเหตุ 1 คดีนี้ภายหลังจากที่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว จำเลยได้นำเงินมาชำระหนี้ตามเช็คบางส่วน

2 โจทก์ได้นำเช็คพิพาทมาฟ้อง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สิทธินำคดีอาญามาฟ้องยังไม่ระงับ

3 ในทางนำสืบได้ความว่า โจทก์ได้ฟ้องเป็นคดีแพ่งให้ชำระหนี้เงินกู้ และมีคำพิพากษาถึงที่สุด โดยศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้ แต่จำเลยยังไม่ชำระหรือมีการตกลงประนีประนอมยอมความ ศาลฎีกาก็วินิจฉัยว่าสิทธิทางคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ไม่ระงับเช่นกัน)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849