ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ
3588.กรณีคู่สมรสมีหนี้ร่วม คู่สมรสจะต้องดำเนินการชำระหนี้ร่วมให้เสร็จก่อน จึงจะแบ่งสินสมรสได้
คำพิพากษาฏีกาที่ 3657/2567 (เล่ม 8 หน้า 1852) โจทก์จำเลยโต้แย้งว่า เงินที่จำเลยโอนให้แก่โจทก์เป็นเงินที่ โจทก์กับจำเลยประกอบธุรกิจร่วมกันอันเป็นเงินที่ได้มาระหว่างสมรส จึงเป็นสินสมรสตาม ป.พ.พ. มาตรา 1474 วรรคท้าย บัญญัติว่า “ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่า ทรัพย์สินอย่างหนึ่งเป็นสินสมรสหรือมิใช่ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรสโจทก์จึงได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐาน เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายกล่าวอ้างว่าเงินดังกล่าวเป็นสินส่วนตัวของจำเลย ภาระการพิสูจน์ตกแก่จำเลย
จำเลยนำเงินสินสมรสไปชำระเงินดาวน์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของราคาที่ดินและบ้านที่โจทก์กับจำเลยร่วมกันซื้อมาในระหว่างสมรส เมื่อเงินที่ชำระราคาที่ดินและบ้านส่วนที่เหลือเป็นเงินที่กู้ยืมจากธนาคารและยังคงมีภาระหนี้สิน อันเป็นหนี้ร่วมกันระหว่างสามีภริยา เมื่อมีการหย่าขาดจากกัน การจะแบ่งสินสมรสจะต้องดำเนินการชำระหนี้ร่วมให้เสร็จสิ้นก่อนจึงนำสินสมรสมาแบ่งกันได้ เมื่อที่ดินและบ้านยังติดจำนองโดยโจทก์ยังผ่อนชำระหนี้ เช่นนี้ ยังไม่อาจแบ่งสิน สมรสกันได้ โจทก์ไม่ต้องคืนเงินที่จำเลยชำระเป็นเงินดาวน์ในการซื้อที่ดินและบ้านแก่จำเลย
(หลักกฎหมาย ป.พ.พ.มาตรา 1474 , 1489 , 1490)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849