รวมคำพิพากษาศาลฎีกา » ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

7 สิงหาคม 2024
872   0

Lawyer Council Online Share

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3344.โอนหุ้นที่ถือแทนนิติบุคคลไปให้บุคคลอื่นก่อนถูกฟ้อง ยังคงต้องรับผิดหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3790/2565 (เล่ม 11 หน้า 65) การจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีถือว่าเป็นที่สุดแห่งการชำระบัญชี ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1270 วรรคสอง และเป็นผลให้จำเลยที่ 1 สิ้นสภาพบุคคลไปก่อนโจทก์นำคดีมาฟ้อง เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่มีสภาพบุคคลเสียแล้วขณะที่โจทก์ฟ้อง จึงไม่มีฐานะอันชอบที่โจทก์จะฟ้องได้ การที่ศาลชั้นต้นรับฟ้องจำเลยที่ 1 สอบคำให้การจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ได้ลงลายมือชื่อพร้อมประทับตราสำคัญของจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพตามฟ้อง และพิพากษาลงโทษปรับจำเลยที่ 1 มานั้น เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาไม่ถูกต้อง ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ในเองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225

ที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า นิติบุคคลตามฟ้องทั้ง 17 บริษัท เพียงแต่เข้าถือครองที่ดินเพื่อใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานและที่อยู่อาศัยของกรรมการ ไม่ได้ประกอบธุรกิจให้เช่าและดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองหรือผู้อื่น ไม่ปรากฏว่านิติบุคคลเหล่านั้นมีรายได้จากค่าเช่าแต่อย่างใด จำเลยที่ 2 จึงไม่ได้กระทำความผิดข้อหาตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ตามฟ้องของโจทก์นั้น คดีนี้เป็นคดีอาญาที่โจทก์ไม่จำต้องสืบพยายามประกอบคำรับสารภาพ เมื่อจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงย่อมรับฟังได้ตามฟ้องของโจทก์ ฎีกาของจำเลยที่ 2 ดังกล่าวขัดกับคำให้การรับสารภาพของจำเลยที่2 และถือเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลล่างทั้งสอง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง และมาตรา 252 ประกอบ ป.วิ.อ.มาตรา 15

เหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ก็เพื่อส่งเสริมให้มีการแข่งขันในการประกอบธุรกิจทั้งในและต่างประเทศซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศไทยโดยส่วนรวม พฤติการณ์ของจำเลยที่ 2 ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยที่ 1 ได้รู้เห็นเป็นใจนำจำเลยที่ 1 เข้าไปถือหุ้นแทนนิติบุคคล ตามฟ้องถึง 18 บริษัท เพื่อให้นิติบุคคลเหล่านั้นได้ประกอบธุรกิจซื้อและขายอสังหาริมทรัพย์อันเป็นการค้าที่ดิน ซึ่งไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง (9) และประกอบธุรกิจให้เช่าและการดำเนินการ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองหรือผู้อื่น เพื่อการให้เช่าเป็นธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการกับคนต่างด้าวตามที่กำหนดไว้ในบัญชีสาม(21) จึงเป็นการกระทำที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศโดยส่วนรวมเลย แม้จำเลยที่ 2 จะอ้างว่าไม่มีความรู้เพราะจบการศึกษาเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมีบุตรผู้เยาว์อุปการะ กรณีก็ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอสมควรที่จะรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยที่ 2

จำเลยที่ 2 ได้โอนหุ้นที่ถือแทนนิติบุคคลตามฟ้องทั้งหมดให้แก่บุคคลอื่นไปแล้วตั้งแต่ก่อนถูกโจทก์ฟ้องเป็นคดีนี้ จำเลยที่ 2 จึงไม่ได้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ส่วนจำเลยที่ 1 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จึงไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะกำหนดให้จำเลยทั้งสองชำระค่าปรับรายวันในอัตราสูงสุด เพราะเหตุฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลให้เลิกการให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือเลิกการถือหุ้นแทนนิติบุคคลตามฟ้องทั้งหมด

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849