ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …
3336.การสนทนาทางโทรศัพท์เพื่อให้สินบนแก่เจ้าพนักงานตำรวจ ไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2566 (เล่ม 8 หน้า 7) จำเลยที่ 1 ได้มาที่บ้านของ ร. ซึ่งเป็นเวลาภายหลังจากที่ ร. ได้ตกลงที่จะให้เงินเป็นสินบนแก่ร้อยตำรวจเอก ธ. แล้ว โดยจำเลยที่ 1 มิได้เป็นผู้ร่วมเสนอสินบนให้แก่เจ้าพนักงานตำรวจด้วย ซึ่งความผิดตาม ป.อ. มาตรา 144 ย่อมเป็นความผิดสำเร็จเมื่อมีการให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน แม้จะยังไม่ได้ส่งมอบทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานก็ตาม การที่ ร. โทรศัพท์ติดต่อให้จำเลยที่ 1 นำเงินมาให้เจ้าพนักงานตำรวจที่บ้านของ ร.นั้น จำเลยที่ 1 เพิ่งเข้ามาเกี่ยวข้องโดยเป็นผู้นำเงินสินบนมาที่บ้านเกิดเหตุหลังจากความผิดสำเร็จแล้ว จึงมิใช่เป็นการร่วมกระทำความผิดกับ ร. ในลักษณะของตัวการ ทั้งมิใช่เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด จึงไม่เป็นผู้สนับสนุน อีกทั้งเมื่อจำเลยที่ 1 มาถึงบ้านของ ร. ก็ถูกร้อยตำรวจเอก ธ. กับพวก จับกุมทันทีโดยไม่มีโอกาสที่จะพูดคุยกับร้อยตำรวจเอก ธ. หรือ ร. ถึงเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่มีพฤติการณ์ใดที่จะบ่งชี้ว่า ได้ร่วมกับ ร.ให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน แต่อย่างไรก็ตาม จำเลยที่ 1 เป็นผู้นำเงินสินบนมามอบให้แก่เจ้าพนักงานตำรวจเพื่อจูงใจให้เจ้าพนักงานตำรวจกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ด้วยการปล่อยตัว ธ. และ ก. และมิให้ยึดรถกระบะ เป็นกรณีที่จำเลยที่ 1 กระทำความผิดแยกได้ต่างหาก จากการกระทำความผิดของ ร. ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ต่างไปจากคำฟ้องที่ว่า จำเลยทั้งสองร่วมกับ ร. ให้สินบนแก่เจ้าพนักงานก็ตาม แต่ก็เป็นข้อเท็จจริงที่รับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงานแล้ว เพราะการกระทำนั้นไม่ว่าจำเลยทั้งสองจะร่วมกันกระทำหรือต่างกระทำความผิดเพียงลำพัง จำเลยแต่ละคนก็ย่อมถูกลงโทษ แต่จะลงโทษได้ตามคำขอของโจทก์หรือไม่เท่านั้น ข้อเท็จจริงตามคำฟ้องที่แตกต่างจากข้อเท็จจริงในทางพิจารณาดังกล่าวมิใช่ข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยที่ 1 มิได้หลงต่อสู้ ศาลย่อมฟังลงโทษจำเลยที่ 1 ตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสอง
จำเลยที่ 2 นั้น มิได้ร่วมอยู่ในที่เกิดเหตุไม่ได้ร่วมเจรจาตกลงที่จะให้สินบนแก่ร้อยตำรวจเอก ธ. โดยตรงลำพังแต่เพียงการสนทนากันทางโทรศัพท์ระหว่าง ร. กับจำเลยที่ 2 ว่าให้ ร. ถามเจ้าพนักงานว่าเคลียร์ที่นี่จบไหม ทำนองจะให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน แต่ขณะนั้นยังมิได้มีการเสนอเรื่องดังกล่าวแก่ร้อยตำรวจเอก ธ. ยังไม่ได้มีการกระทำด้วยการขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการหรือประวิงการ กระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่แต่อย่างใด การที่ ร. ไปเสนอแก่ร้อยตำรวจเอก ธ. ว่าจะให้เงินจำนวน 50,000 บาท จบกันที่นี่ได้ไหม เป็นการกระทำโดยลำพังของ ร.เอง ไม่เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 2 รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 กระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง
(หมายเหตุ 1 จำเลยที่ 1 ได้นำเงินสินบนจำนวน 50,000 บาท ที่ ร.ได้เจรจากับเจ้าพนักงานตำรวจมาให้ ร. ที่บ้านของ ร. ไม่เป็นความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกับ ร.กระทำความผิด และไม่เป็นการสนับสนุนผู้กระทำความผิด แต่เป็นความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงานต่างหากเป็นอีกส่วนหนึ่ง
2 ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่ได้อยู่ร่วมเจรจาในการให้สินบนแก่เจ้าพนักงานตำรวจ เพียงแต่สนทนาทางโทรศัพท์กับ ร. ว่า ให้ ร.ถามเจ้าพนักงานว่า เคลียร์ที่นี่จบไหม แม้จะเป็นทำนองว่า จะให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ก็ยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849