รวมคำพิพากษาศาลฎีกา » ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

28 มิถุนายน 2024
10687   0

Lawyer Council Online Share

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3305.ปลอมแบบส่งเงินอายัด และปลอมใบ ภ.บ.ท.5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4009/2566 (ประชุมใหญ่) แบบส่งเงินอายัด เป็นเอกสารที่ธนาคารจัดส่งเงินฝากในบัญชีของจำเลยที่ 1 มาให้สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเพชรบุรี ตามคำสั่งอายัดเงินของจำเลยที่ 1 ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 326/2558 ของศาลจังหวัดเพชรบุรี ไม่ใช่เอกสารที่เจ้าพนักงานได้ทำขึ้นหรือรับรองในหน้าที่ รวมทั้งไม่เป็นเอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิตาม ป.อ. มาตรา 1 (8) และ (9) จึงเป็นเอกสารตาม ป.อ. มาตรา 1 (7) เท่านั้น

ส่วนใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท. 5) เป็นเอกสารที่เจ้าพนักงานได้ทำขึ้นในหน้าที่เพื่อมอบให้แก่ผู้ครอบครองที่ดินเพื่อเป็นหลักฐานในการชำระภาษีบำรุงท้องที่ จึงเป็นเอกสารราชการตาม ป.อ. มาตรา 1 (8) แต่ไม่เป็นเอกสารสิทธิตาม ป.อ. มาตรา 1 (9) ในความผิดฐานปลอมเอกสาร ใช้เอกสารปลอม และฉ้อโกง ล้วนเป็นการกระทำต่อเนื่องกันโดยมีเจตนาเดียวเพื่อหลอกลวงโจทก์ทั้งสอง การที่โจทก์ทั้งสองทยอยมอบเงินกู้ยืมให้แก่จำเลยที่ 1 ในแต่ละครั้ง รวม 70 ครั้ง เป็นการกระทำต่อเนื่องด้วยเจตนาเดียวเพื่อฉ้อโกงโจทก์ทั้งสองเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท

(หมายเหตุ 1 โจทก์ทั้งสองประกอบกิจการซื้อขายรถยนต์บรรทุก จำเลยที่ 3 เคยซื้อรถยนต์บรรทุกจากโจทก์ทั้งสองลักษณะผ่อนส่ง จำเลยที่ 1 เป็นบุตรของจำเลยที่ 3 ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นบุตรสะใภ้ของจำเลยที่ 3 และเป็นน้องสะใภ้ของจำเลยที่ 1 โจทก์ทั้งสองจึงรู้จักจำเลยที่ 1 และที่ 2

2 ก่อนเกิดเหตุจำเลยที่ 1 และที่ 3 ถูกฟ้องขับไล่ออกจากที่ดินและบ้าน คดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลยที่ 1 และที่ 3 ออกจากที่ดินพร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหาย และธนาคาร ก. ส่งเงินในบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 1 จำนวน 300,000 บาท มาให้ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดเพชรบุรี

3 จำเลยที่ 1 นำสำเนาแบบส่งเงินอายัดของธนาคาร ก. มาแก้ไขจำนวนเงินจาก 300,000 บาท เป็น 116,000,000 บาท แล้วจำเลยที่ 1 ส่งเอกสารที่ทำปลอมขึ้นดังกล่าวไปให้โจทก์ที่ 1 ทางแอปพลิเคชันไลน์เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการหลอกลวงโจทก์ทั้งสองว่าจำเลยที่ 1 มีสิทธิจะได้รับเงินตามคำสั่งอายัดจำนวน 116,000,000 บาท และขอกู้ยืมเงินจากโจทก์ทั้งสอง

4 โจทก์ทั้งสองหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง จึงให้จำเลยที่ 1 กู้ยืมเงินรวม 17,650,000 บาท โดยมอบเช็คให้จำเลยที่ 1 จำนวน 2 ฉบับ และทยอยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 2 จำนวน 11 ครั้ง บัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 3 จำนวน 57 ครั้ง

5 จำเลยที่ 1 ปลอมใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท. 5) ขององค์การบริหารส่วนตำบล แล้วจำเลยที่ 1 นำเอกสารที่ทำปลอมขึ้นดังกล่าวพร้อมหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินและหนังสือมอบอำนาจที่จำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อไว้ในฐานะผู้ขายและผู้มอบอำนาจ รวมทั้งสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนที่จำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องมามอบให้โจทก์ที่ 1 เพื่อให้โจทก์ทั้งสองหลงเชื่อว่าจำเลยที่ 1 มีที่ดินเนื้อที่ 72 ไร่ ราคาไร่ละ 300,000 บาท เป็นประกันการชำระหนี้ ซึ่งเป็นความเท็จ เพราะองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยตรวจสอบแล้วพบว่า ที่ดินตามใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท. 5) ที่จำเลยที่ 1 ทำปลอมขึ้น มีนาง ม.และนาง อ. เป็นผู้ครอบครอง โดยมีเนื้อที่เพียง 10 ไร่

6 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265, 341 มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละหนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 ปี จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 341 ประกอบมาตรา 86 มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละหนึ่งในสาม จำคุกจำเลยที่ 2 และที่ 3 คนละ 1 ปี 4 เดือน

7 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 264 วรรคแรก, 265, 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 264 วรรคแรก อีกบทด้วย การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม รวมจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 ปี ให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งสองสำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 3

8 ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่วินิจฉัยว่า แบบส่งเงินอายัดเป็นเอกสารตาม ป.อ. มาตรา 1 (7) เท่านั้น ส่วนใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท. 5) เป็นเอกสารราชการตาม ป.อ. มาตรา 1 (8) แต่ไม่เป็นเอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับซึ่งสิทธิตาม ป.อ. มาตรา 1 (9) และมีคำวินิจฉัยข้างต้น โดยพิพากษายืน)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849