รวมคำพิพากษาศาลฎีกา » ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

19 เมษายน 2024
15100   0

Lawyer Council Online Share

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ

3235.คดีทุจริตเป็นระบบไต่สวน ศาลมีหน้าที่ไต่สวนค้นหาความจริง

คำพิพากษาฎีกาที่ 514/2566 (เล่ม 11 หน้า 2527) (ประชุมใหญ่) พ.ร.บ. วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 มาตรา 6 วรรคหนึ่ง กำหนดวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบให้ใช้ระบบไต่สวนและเป็นไปด้วยความรวดเร็วตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้และข้อบังคับของประธานศาลฎีกา หาได้ใช้ระบบกล่าวหาตาม ป.วิ.อ.ไม่ วิธีพิจารณาที่แสวงหาความจริงโดยศาล และศาลมีอำนาจไต่สวนเต็มที่เพื่อให้ได้ความจริง หากศาลอุทธรณ์มีข้อสงสัยพยานโจทก์ที่ให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยแตกต่างไปจากที่ให้การต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาค ต่อคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. และที่เบิกความต่อศาล ศาลอุทธรณ์มีอำนาจกำหนดให้ศาลชั้นต้นไต่สวน ให้ได้ความจริง ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 มาตรา 22 มาตรา 25 และข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยวิธีดำเนินคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 ข้อ 23 ประกอบมาตรา 43 และป.วิ.พ. มาตรา 240(2) และจะพิพากษายกฟ้องโดยยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 227 วรรคสอง ได้เฉพาะเมื่อเห็นว่าศาลได้ทำการไต่สวนพยานอย่างเต็มที่แล้ว

จำเลยซึ่งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งเกษตรจังหวัด สังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นหัวหน้าส่วนราชการมีหน้าที่โดยตรงในการจัดการและดูแลรักษาเงินที่สำนักงานเกษตรจังหวัด ได้รับมอบหมายจากกรมส่งเสริมการเกษตรผู้เสียหายใช้อำนาจในตำแหน่งสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาขออนุมัติยืมเงิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการโครงการที่ไม่ได้จ่ายจริง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการที่ไม่ได้ไปจริง เพื่อเป็นค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มที่จ่ายเกินความจริง โดยจำเลยเป็นผู้อนุมัติและสั่งจ่ายเช็คโดยไม่ขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” ออก ซึ่งผิดระเบียบให้ผู้ใต้บังคับบัญชานำเช็คเรียกเก็บเงิน แล้วนำเงินให้จำเลยหรือนำเงินเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลย และจำเลยสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำใบสำคัญส่งใช้เงินยืมอันเป็นเท็จ แม้การเบิกจ่ายเงินจะมีเจ้าหน้าที่อื่นดูแล แต่จำเลยในฐานะเป็นหัวหน้าส่วนราชการก็ยังคงมีหน้าที่จัดการและรักษาเงินนั้นด้วย การกระทำของจำเลยเป็นวิธีการเพื่อให้เงินมาอยู่ในความครอบครองของจำเลยซึ่งมีหน้าที่ต้องจัดการและรักษา แล้วจำเลยเบียดบังเอาเงินนั้นไปเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นอันเป็นการทุจริต เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 147 และการสั่งการและการดำเนินการโดยมิชอบนั้นเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตเป็นการเสียหายต่อรัฐและผู้เสียหาย เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 151 ด้วย

(หมายเหตุ 1 ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 13 กระทง จำคุก 39 ปี 52 เดือน ให้จำเลยคืนเงิน 662,213 บาท แก่ผู้เสียหาย

2 ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริต และประพฤติมิชอบพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยกระทำผิดรวม 8 กระทง รวมจำคุก 24 ปี 32 เดือน ให้จำเลยคืนเงิน 138,106 บาท แก่ผู้เสียหาย

3 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 13 กระทง จำคุก 39 ปี 52 เดือน ให้จำเลยคืนเงิน 662,213 บาท แก่ผู้เสียหาย)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ และกรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849