รวมคำพิพากษาศาลฎีกา » ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

22 มีนาคม 2024
13633   0

Lawyer Council Online Share

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3207.ลงข้อความเตือนการถูกหลอกลวงในแอปพลิเคชั่นกลุ่ม ไม่เป็นหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2114/2566 (เล่ม 4 หน้า 132) ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตาม ป.อ.มาตรา 326 จำเลยมิได้อุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 4 เห็นว่า การกระทำของจำเลยเข้าข้อยกเว้นตามกฎหมายว่าการกระทำเช่นนั้นไม่เป็นความผิด ก็ชอบที่จะวินิจฉัยคดีไปตามนั้นและพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 185 วรรคหนึ่ง และปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง มิใช่เป็นการพิพากษาเกินคำขอหรือที่มิได้กล่าวในฟ้องแต่อย่างใด

ข้อความของจำเลยในกลุ่มแอปพลิเคชั่นไลน์ เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าโจทก์ร่วมเอาเงินของจำเลยไปแล้ว น้องสาวจำเลยไม่ได้เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ แล้วโจทก์ร่วมไม่ยอมคืนเงินแก่จำเลย มีนิสัยขี้โกง แล้วยังมาฟ้องกลับน้องสาวจำเลยอีก โดยแสดงความคิดเห็นประกอบเตือนเพื่อนไว้เป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าได้หลงเชื่อ อาจเสียเงินเสียทอง เพราะจะเป็นเหยื่อของคนคิดฉ้อโกง ที่จำเลยกล่าวเช่นนั้นก็โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตือนเพื่อนในกลุ่มแอปพลิเคชั่นไลน์ ไม่ให้ถูกหลอกเพราะมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น การเตือนดังกล่าวก็เพื่อประโยชน์ของประชาชน อันเป็นสาธารณประโยชน์ที่จำเลยผู้กล่าวข้อความมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากน้องสาวจำเลยให้เงินโจทก์ร่วมไปแล้ว แต่ไม่ได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ และโจทก์ร่วมไม่ยอมคืนเงินให้ เมื่อจำเลยเชื่อโดยสุจริตใจว่าโจทก์ร่วมมีเจตนาฉ้อโกง ประชาชน โดยจำเลยมิได้มีเจตนากลั่นแกล้งใส่ร้ายโจทก์ร่วม และเป็นการเชื่อโดยมีมูลเหตุอันควรเชื่อว่าเป็นความจริง จำเลยจึงมีความชอบธรรมที่จะเปิดเผยให้ประชาชนทราบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว เพื่อป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสีย เกี่ยวกับตนตามคลองธรรม ตลอดจนแสดงความคิดเห็นติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ การกระทำของจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทตาม ป.อ. มาตรา 329(1)(3) เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทจึงไม่เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ร่วม จำเลยไม่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วม

(หมายเหตุ 1 โจทก์ร่วมกับจำเลยเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก จำเลยส่งเข้าข้อความเข้ากลุ่มไลน์ซึ่งมีสมาชิกขณะเกิดเหตุ 27 คน โดยเป็นเพื่อนร่วมศึกษาสถาบันเดียวกัน

2 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 326 ปรับ 5,000 บาท กับให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี

3 ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

4 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยดังกล่าวข้างต้น โดยพิพากษายืน)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ และกรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849