ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ
3148.เข้าไปทำสวนปาล์มน้ำมันโดยมีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เป็นการกระทำละเมิดหรือไม่
คำพิพากษาฎีกาที่ 2434/2566 (เล่ม 8 หน้า 1939) โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับโจทก์ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ทำสวนปาล์มน้ำมันเฉลิมพระเกียรติของโรงเรียนโจทก์ในที่ดินราชพัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาตจากธนารักษ์พื้นที่ แล้วจำเลยทั้งสองเข้าไปปรับพื้นที่และปลูกปาล์มน้ำมันในที่ดินแปลงดังกล่าวซึ่งเป็นที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับ อนุญาตจากกรมธนารักษ์ เป็นการบุกรุกที่ดินราชพัสดุซึ่งเป็นที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ ขอให้จำเลยทั้งสองออกจากที่ดินราชพัสดุและให้ชำระค่าเสียหาย ดังนี้ แม้จำเลยทั้งสองจะทำบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือ (MOU) กับโจทก์ แต่ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามคำฟ้องของโจทก์คือ จำเลยทั้งสองเข้าไปปรับพื้นที่และปลูกปาล์มน้ำมันในที่ดินราชพัสดุของโรงเรียนโจทก์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมธนารักษ์พื้นที่ก่อน เป็นการละเมิดต่อโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสองกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ ที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยทั้งสองผิดเงื่อนไขข้อตกลง โจทก์มีอำนาจฟ้องเพื่อยกเลิกข้อตกลงในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) และห้ามจำเลยทั้งสองเข้ารบกวนการครอบครองสิทธิในที่ดินและเรียกค่าเสียหาย เท่ากับว่าโจทก์อ้างว่าจำเลยทั้งสองผิดสัญญา ซึ่งประเด็นว่าจำเลยทั้งสองผิดสัญญาหรือไม่ เป็นประเด็นที่เกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้องต้องห้ามตาม ป.วิ.พ.มาตรา 142 ศาลฎีกาไม่อาจวินิจฉัยได้
(หมายเหตุ 1 คดีนี้โจทก์ฟ้องโดยคดีมีประเด็นว่า จำเลยทั้งสองกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ แต่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยทั้งสองผิดเงื่อนไขข้อตกลง ศาลฎีกาไม่อาจวินิจฉัยได้เพราะเกินกว่าที่ปรากฏในคำฟ้อง โดยพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8
2 ศาลอุทธรณ์ภาค 8 วินิจฉัยว่า การพิพากษาขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากที่ดินราชพัสดุและให้ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ เป็นการเกินกว่าหรือที่นอกเหนือจากที่ปรากฏในคำฟ้อง ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ.มาตรา 142)
(นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ และกรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9*663849)