ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …
3139.ไม่ขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ยังมีสิทธิฟ้องคดีแพ่งได้เอง
คำพิพากษาฎีกาที่ 2647/2566 (เล่ม 8 หน้า 1954) โจทก์เป็นเจ้าหนี้มีประกันเหนือทรัพย์สินซึ่งจำนองของ น. ย่อมมีสิทธิเลือกที่จะยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายที่ น. ถูกศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดหรือไม่ก็ได้ แล้วแต่โจทก์จะเห็นสมควรว่าวิธีการใดจะเหมาะสมและเป็นประโยชน์แก่โจทก์มากกว่ากัน หากโจทก์ไม่ขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายเพราะเห็นว่าหลักประกันที่มีอยู่นั้นคุ้มกับจำนวนหนี้ โจทก์ก็ยังคงครองสิทธิจำนองเหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันอยู่ในลำดับเดิมต่อไป เมื่อโจทก์ไม่ได้ขอรับชำระหนี้ในคดีที่ น. ถูกศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ เด็ดขาด โจทก์ย่อมมีสิทธินำหนี้ที่ น. มีต่อโจทก์มาฟ้องบังคับจำนองในคดีแพ่งได้เอง โดยหาจำต้องขอบังคับบุริมสิทธิ ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 95 หรือต้องขอมติที่ประชุมเจ้าหนี้ก่อนไม่ เมื่อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างทรัพย์จำนองเป็นทรัพย์ที่ น. มีมาก่อนล้มละลายและไม่ปรากฏว่ากรรมการเจ้าหนี้มีมติเห็นชอบให้สละสิทธิในที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามมาตรา 145 (3) จึงเป็นทรัพย์สินของ น. ในคดีล้มละลายอยู่ในอำนาจจัดการของจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในฐานะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของ น.เป็นคดีนี้ได้
(หมายเหตุ 1 ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
2 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยดังกล่าวข้างต้น โดยพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาแล้วมีคำสั่งหรือคำพิพากษาต่อไปตามรูปคดี)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ และกรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849