รวมคำพิพากษาศาลฎีกา » ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

28 ธันวาคม 2023
20351   0

Lawyer Council Online Share

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

3123.ผู้ให้เช่าซื้อมีหนังสือบอกกล่าวการผิดนัดไปยังผู้ค้ำประกันตามสำเนาทะเบียนบ้าน มิใช่สถานที่ทำงานของผู้ค้ำประกัน เป็นการส่งคำบอกกล่าวโดยชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2438/2566 (หน้า 48 เล่ม 8) โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวการผิดนัดไปยังจำเลยที่ 2 โดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังที่อยู่ของจำเลยที่ 2 ตามแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎรและเป็นที่อยู่ซึ่งระบุไว้ในสัญญาค้ำประกัน การบอกกล่าวของโจทก์เป็นการปฏิบัติไปตามข้อตกลงในสัญญาที่มีต่อกันตามสัญญาค้ำประกันข้อ 10 ที่ระบุว่า บรรดาหนังสือติดต่อ และ/หรือหนังสือบอกกล่าวทั้งหลายที่จะต้องส่งให้แก่จำเลยที่ 2 หากส่งไปยังที่อยู่ของจำเลยที่ 2 ตามที่ระบุไว้ในหน้าแรกส่วนต้นของสัญญาค้ำประกัน โดยส่งเองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือไม่ลงทะเบียน ให้ถือว่าส่งให้แก่จำเลยที่ 2 โดยชอบแล้ว โดยไม่ต้องคำนึงว่าจะมีผู้รับหรือไม่ ดังนี้ การส่งหนังสือบอกกล่าวการผิดนัดซึ่งโจทก์ปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาที่มีต่อกัน ทั้งยังเป็นการส่งอย่างเป็นทางการไปยังภูมิลำเนาที่อาศัยของจำเลยที่ 2 จึงนับว่ากระทำไปโดยชอบ แม้การส่งหนังสือบอกกล่าวเช่นนี้ไม่พบจำเลยที่ 2 และไม่มีผู้ใดรับไว้ ทั้งไม่มีผู้ใดมารับเอกสารนั้นไปภายในเวลาที่กำหนด แต่ก็ถือว่าการแสดงเจตนาโดยหนังสือบอกกล่าวของโจทก์ได้ไปถึงจำเลยที่ 2 ตาม ป.พ.พ.มาตรา 169 และมีผลเป็นการบอกกล่าวแก่จำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันตาม ป.พ.พ.มาตรา 686 วรรคหนึ่ง โดยชอบแล้ว

จำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันเป็นผู้บริโภค การยื่นคำฟ้องอุทธรณ์และฎีกาตลอดจนการดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ ในคดีผู้บริโภค ย่อมได้รับการยกเว้นค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวง แต่ไม่รวมถึงความรับผิดในชั้นที่สุดตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาผู้บริโภค พ.ศ.2551 มาตรา 18 วรรคหนึ่ง ดังนั้น การที่จำเลยที่ 2 ชำระค่าขึ้นศาลและค่าใช้จ่ายในการส่งคำคู่ความชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกามาด้วย จึงต้องคืนเงินที่จำเลยที่ 2 ชำระมาทั้งหมดให้แก่จำเลยที่ 2

( หมายเหตุ 1 จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อในคำรับรองของผู้ค้ำประกันเพื่อให้จำเลยที่ 1 นำไปประกอบการขอสินเชื่อ โดยในการทำคำรับรองของผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 2 ยอมกระทำไปตามที่พี่สาวของตนร้องขอ

2 โจทก์ได้รับคำเสนอของจำเลยที่ 1 แล้ว ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินดาวน์เพิ่มขึ้น และหาบุคคลมาเป็นผู้ค้ำประกันเพิ่มด้วย

3 ต่อมาเวลาภายหลังจากจำเลยที่ 1 ชำระเงินดาวน์ให้แก่โจทก์เพิ่มเติมแล้ว โจทก์อนุมัติสินเชื่อให้แก่จำเลยที่ 1

4 จำเลยที่ 1 ชำระค่าเช่าซื้อให้แก่โจทก์เพียง 7 งวดแล้วไม่ชำระค่าเช่าซื้ออีก โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวทวงถาม และบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 1 เพิกเฉย

5 จำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันฎีกาว่า จำเลยที่ 2 เคยแสดงเจตนาทำสัญญาค้ำประกันการเช่าซื้อรถยนต์ของจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ แต่เมื่อโจทก์อนุมัติการเช่าซื้อรถยนต์ตามคำเสนอของจำเลยที่ 1 การแสดงเจตนาค้ำประกันของจำเลยที่ 2 ย่อมตกไปพร้อมกับคำเสนอของจำเลยที่ 1 แม้ต่อมาโจทก์กับจำเลยที่ 1 จะเจรจาตกลงกันใหม่ และโจทก์ขอให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินดาวน์เพิ่มขึ้นกับหาบุคคลมาเป็นผู้ค้ำประกันอีกหนึ่งคน จนในที่สุดมีการทำสัญญาเช่าซื้อกัน จำเลยที่ 2 มิได้ตกลงยินยอมค้ำประกันหนี้โจทก์และจำเลยที่ 1 ตกลงกันใหม่ในครั้งหลัง จำเลยที่ 2 จึงไม่ใช่ผู้ค้ำประกันหนี้รายนี้

6 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการที่โจทก์ไม่สนองรับคำเสนอขอสินเชื่อของจำเลยที่ 1 ในทันทีที่ได้รับคำเสนอโดยโจทก์และจำเลยที่ 1 ยังมีการเจรจาตกลงเงื่อนไขเกี่ยวกับจำนวนเงินดาวน์และเพิ่มเติมหลักประกันแห่งหนี้ต่อไป จึงมิได้ส่งผลให้การแสดงเจตนาของจำเลยที่ 2 ต้องตกไปหรือสิ้นผลผูกพันดังที่จำเลยที่ 2 เข้าใจและอ้างมาในฎีกา)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849