ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …
3113.ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีฟ้องหย่า จะฟ้องเรียกค่าทดแทนใหม่ไม่ได้
คำพิพากษาฎีกาที่ 1591/2566 (หน้า 1438 เล่ม 6) โจทก์ฟ้องเรียกค่าทดแทนโดยการฟ้องหย่าตาม ป.พ.พ.มาตรา 1523 วรรคหนึ่ง แต่โจทก์กับ พ. หย่ากันโดยทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาล แม้ศาลมีคำพิพากษาตามยอมโดยให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความก็เป็นเพียงการสั่งเมื่อสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับจดทะเบียนหย่าได้ตามมาตรา 213 ไม่ใช่กรณีที่ศาลพิพากษาให้หย่ากันเพราะเหตุตามมาตรา 1516(1) ทั้งตามคำฟ้องของโจทก์ไม่บรรยายอ้างพฤติการณ์ว่าจำเลยแสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าจำเลยมีความสัมพันธ์กับ พ.สามีโจทก์ในทำนองชู้สาว อันจะเป็นประเด็นแห่งคดีที่โจทก์จะนำสืบถึงข้อเท็จจริงนั้นได้ โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับค่าทดแทนตามมาตรา 1523 วรรคสอง
(หมายเหตุ 1 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1523 เป็นบทบัญญัติแสดงให้เห็นว่า การที่ภรรยาเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นซึ่งแสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทางชู้สาว มีได้ 2 กรณี คือ (1) กรณีที่เรียกค่าทดแทนโดยมีเงื่อนไขต้องฟ้องหย่าและศาลพิพากษาให้หย่ากันตามมาตรา 1523 วรรคหนึ่ง กับ(2) กรณีที่เรียกค่าทดแทนโดยไม่มีเงื่อนไขต้องฟ้องหย่าตามมาตรา 1523 วรรคสอง
2 สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระค่าทดแทนให้แก่โจทก์ เป็นเงิน 400,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
3 ศาลอุทธรณ์คดีชำนาญพิเศษแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
4 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยดังกล่าวข้างต้น โดยพิพากษายืน)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849