ฎีกาเด่นรายวัน โดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …
3089.กำหนดเวลาไถ่ถอนการขายฝาก
คำพิพากษาฎีกาที่ 1302/2566 (หน้า 1136 เล่ม 5) แม้สัญญาขายฝากระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ทำขึ้นก่อน พ.ร.บ.คุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ แต่การกำหนดไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากระหว่างโจทก์กับจำเลยมีหรือเหลือระยะเวลาน้อยกว่าสามเดือนนับแต่วันที่ 17 เมษายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ เช่นนี้กรณีต้องด้วยบทเฉพาะกาล มาตรา 20 ที่ว่า “สัญญาขายฝากซึ่งทรัพย์สินที่ขายฝากเป็นที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัยที่ได้ทำไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับและยังไม่ครบกำหนดเวลาไถ่ให้มีผลผูกพันคู่สัญญาต่อไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในวันทำสัญญาขายฝาก เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้…..(3) ให้นำความในมาตรา 17 มาใช้บังคับแก่สัญญาขายฝากที่มีผลบังคับอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และในกรณีที่กำหนดเวลาไถ่ในสัญญาขายฝากมีหรือเหลือระยะเวลาน้อยกว่าสามเดือนนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ขยายกำหนดเวลาการไถ่ถอนไปเป็นเวลาหกเดือนนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ…..” กำหนดไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากระหว่างโจทก์กับจำเลยต้องขยายระยะเวลาออกไปตามบทกฎหมายเพื่อประโยชน์แก่ผู้ขายฝากโดยครบกำหนดไถ่วันที่ 17 ตุลาคม 2562
ก่อนวันครบกำหนดเวลาไถ่ที่ขยายออกไปโดยผลของกฎหมายตาม พ.ร.บ.คุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2562 มาตรา 20(3) ในวันที่ 17 ตุลาคม 2562 จำเลยผู้ซื้อฝากมิได้มีหนังสือแจ้งให้โจทก์ผู้ขายฝากทราบถึงกำหนดเวลาไถ่และจำนวนสินไถ่ก่อนวันครบกำหนดเวลาไถ่ไม่น้อยกว่าสามเดือนแต่ไม่มากกว่าหกเดือนตามมาตรา 17 วรรคหนึ่ง กำหนดไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากต้องขยายไปอีกหกเดือนนับแต่วันครบกำหนดไถ่ตามมาตรา 17 วรรคสอง จนถึงวันที่ 17 เมษายน 2563 การที่โจทก์ขอไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากต่อจำเลยวันที่ 31 ตุลาคม 2562 จึงยังคงอยู่ภายในกำหนดไถ่ จำเลยต้องไถ่ถอนการขายฝากแก่โจทก์ตามฟ้อง
ความเสียหายที่โจทก์อ้างว่าไม่สามารถนำทรัพย์สินที่ขายฝากออกจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอก เป็นความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยคาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าในอันที่จะต้องรับผิดต่อโจทก์ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 222 วรรคสอง โจทก์ไม่อาจบังคับให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ได้
(หมายเหตุ 1 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 5 แผนกคดีผู้บริโภคพิพากษายืน
2 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยดังกล่าวข้างต้น โดยพิพากษากลับให้จำเลยจดทะเบียนไถ่ขายฝากที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โดยให้โจทก์ชำระสินไถ่เป็นเงิน 1,872,000 บาท แก่จำเลยภายใน 30 วันนับแต่วันฟังคำพิพากษาศาลฎีกา)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849