ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์
3086.โจทก์ขอถอนบังคับคดี แต่เจ้าพนักงานบังคับคดียังขายทอดตลาดต่อไปเพื่อประโยชน์ของผู้ร้อง โจทก์ยังคงต้องรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมการบังคับคดี
คำพิพากษาฎีกาที่ 643/2566 (หน้า 845 เล่ม 4) ระหว่างเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึด โจทก์ยื่นคำแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า โจทก์ได้รับชำระหนี้จากจำเลยครบถ้วนแล้ว โดยไม่ได้แถลงว่า โจทก์ขอถอนการบังคับคดี ทั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีสั่งคำแถลงว่าโจทก์แถลงผลการชำระหนี้ภายนอกแต่ยังไม่สละสิทธิการบังคับคดีก็ตาม แต่คำแถลงของโจทก์เช่นนี้ย่อมเป็นผลให้โจทก์ไม่มีสิทธิบังคับคดีจากทรัพย์จำนองที่ยึดไว้ได้อีกต่อไป ซึ่งต้องถือว่าเป็นการที่โจทก์ขอถอนการบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดีต้องถอนการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ.มาตรา 292(7)
หลังจากโจทก์แถลงว่า จำเลยได้ชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดทรัพย์จำนองต่อไปเพื่อประโยชน์ของผู้ร้องซึ่งศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ได้รับชำระหนี้บุริมสิทธิ และผู้ร้องเป็นผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดกับชำระราคาด้วยการใช้สิทธิหักส่วนได้ใช้แทน เช่นนี้ เป็นการปฏิบัติตาม ป.วิ.พ.มาตรา 327 ด้วยการให้ผู้ร้องเข้าดำเนินการบังคับคดีต่อไปจากโจทก์เนื่องด้วยมีการถอนการบังคับคดี
โจทก์เป็นผู้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำนองแล้วมีการถอนการบังคับคดีของโจทก์โดยโจทก์ได้ยื่นคำแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า จำเลยได้ชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว จึงไม่ได้บังคับแก่ทรัพย์จำนองด้วยการขายทอดตลาดเพื่อประโยชน์ของโจทก์ เป็นกรณีที่มีการยึดทรัพย์แล้วไม่มีการขาย โจทก์ต้องรับผิดชำระค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขายตามตาราง 5 ท้าย ป.วิ.พ. กับค่าใช้จ่ายในการบังคับคดี อันเป็นค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ.มาตรา 153 วรรคสอง และมาตรา 169/2 วรรคสี่ ทั้งเจ้าหนี้ซึ่งศาลอนุญาตให้ได้รับชำระหนี้จากเงินที่ได้จากขายทอดตลาดทรัพย์จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่นตามมาตรา 324 มีสิทธิดำเนินการบังคับคดีต่อไปตามมาตรา 327 ต้องเป็นผู้ชำระค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดีในส่วนที่ดำเนินการบังคับคดีต่อไปตามมาตรา 153 วรรคสี่ จึงหาได้ทำให้โจทก์หลุดพ้นความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดีที่โจทก์เป็นผู้ขอบังคับคดีในส่วนของตนไม่
(หมายเหตุ 1 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นบังคับคดี อันได้แก่ ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆในการบังคับคดีเป็นค่าบริการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีเรียกเก็บจากคู่ความที่ขอใช้บริการในการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ.มาตรา 153 วรรคสอง กำหนดให้เจ้าหนี้ผู้ขอบังคับคดีนั้นเป็นผู้ชำระ และตาม ป.พ.พ. มาตรา 169/2 วรรคสี่ ยังบัญญัติให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาผู้ขอยึดหรืออายัดทรัพย์สินเป็นผู้รับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดี ในกรณีที่มีการถอนการบังคับคดี นอกจากกรณีตาม ป.วิ.พ. 292(1) และ(5) ในการบังคับคดีตามคำพิพากษาคดีนี้
2 คดีนี้โจทก์ฎีกาอ้างว่า เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์จำนองโดยผู้ร้องเป็นผู้ซื้อทรัพย์จำนองเอง ทั้งโจทก์และผู้ร้องเป็นนิติบุคคลเดียวกัน และต่างเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์จึงไม่จำต้องรับผิดในค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขายและค่าใช้จ่ายในการบังคับคดี
3 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยดังกล่าวข้างต้น โดยพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองที่ให้ยกคำร้องของโจทก์ที่ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียกเว้นค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขายและค่าใช้จ่ายในการบังคับคดี)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849