รวมคำพิพากษาศาลฎีกา » ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

29 ธันวาคม 2024
980   0

Lawyer Council Online Share

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3487.ผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ ผู้ให้กู้มีสิทธิได้รับดอกเบี้ยตามสัญญา

คำพิพากษาฎีกาที่ 1236/2567 (เล่ม 3 หน้า 603) พ.ร.บ. วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 12 บัญญัติ หลักสุจริตควบคุมกำกับพฤติกรรมของผู้ประกอบธุรกิจในการค้าสินค้าหรือการค้าบริการเพิ่มเติมรายละเอียดมากกว่าที่ใช้บังคับกับบุคคลทั่วไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 5 โดยมิได้มีบทบัญญัติพิเศษเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทสันนิษฐานตาม ป.พ.พ. มาตรา 6 เช่นนี้ต้องถือว่าข้อสันนิษฐานตามมาตรา 6 ใช้บังคับกับผู้ประกอบธุรกิจตาม พ.ร.บ. วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 ด้วย โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจให้กู้เงินย่อมได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานว่ากระทำการ โดยสุจริต

จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์มีหน้าที่ต้องชำระคืนตามที่ตกลงกันไว้แต่จำเลยละเลยเสียไม่ชำระหนี้ โจทก์มีสิทธิเรียกร้องด้วยการใช้สิทธิทางศาลได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 213 และ ป.วิ.พ. มาตรา 55 ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยตามสัญญาโดยไม่ขัดต่อ ป.พ.พ. มาตรา 654 และมาตรา 224 วรรคหนึ่ง เป็นการใช้สิทธิตามปกติที่มีข้อสัญญาและกฎหมายรองรับ แม้โจทก์จะทอดเวลาเนิ่นนานกว่าจะนำคดีมาฟ้อง แต่เมื่อคดีไม่มีประเด็นเรื่องอายุความ โจทก์ย่อมต้องได้รับการชำระหนี้ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยตามจำนวนที่ยังไม่ได้รับชำระ กรณีไม่ใช่เรื่องที่ศาลจะยก พ.ร.บ. วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 12 ขึ้นปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามสัญญาลงได้

(หมายเหตุ 1 คดีนี้ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า สัญญากู้เงินทั้งสองฉบับมีกำหนดเวลาชำระหนี้แน่นอนตามวันแห่งปฏิทิน การที่โจทก์ปล่อยระยะเวลาให้ล่วงเลยมานานหลังจากที่หนี้เงินกู้ตามสัญญาทั้งสองฉบับถึงกำหนดชำระจนทำให้ดอกเบี้ยท่วมเงินต้นและเกือบท่วมเงินต้นตามลำดับ นับเป็นกรณีที่โจทก์ได้รับประโยชน์ฝ่ายเดียวไม่คำนึงถึงความเสียหาย ของจำเลยต้องด้วยบทกฎหมายดังกล่าว (ตาม พ.ร.บ. วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 12) ประกอบกับเมื่อคำนึง ถึงสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศแล้วจึงปรับลดดอกเบี้ยหลังจากหนี้เงินกู้ถึงกำหนดชำระแล้ว ลงเหลืออัตราร้อยละ 5 ต่อปี

2 โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ฟ้องบังคับชำระหนี้ตามสัญญากู้เงินทั้งสองฉบับภายในกำหนดอายุความตามที่กฎหมายบัญญัติ ไม่ใช่การกระทำที่ไม่สุจริต แต่ฝ่ายจำเลยเองก็เป็นฝ่ายที่ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด ทั้งดอกเบี้ยที่โจทก์คิดก็ไม่ใช่ดอกเบี้ยตาม ป.พ.พ.มาตรา 7 และ 224

3 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยข้างต้นโดยพิพากษาแก้เป็นว่า ในการคำนวณดอกเบี้ยตามสัญญากู้เงินให้ใช้อัตราร้อยละ 15 ต่อปี)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849