รวมคำพิพากษาศาลฎีกา » ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

28 พฤษภาคม 2025
1378   0

Lawyer Council Online Share

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3636.หมิ่นประมาทในระหว่างเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร

คำพิพากษาฎีกาที่ 1547/2567 (เล่ม 9 หน้า 1886) ระหว่างโจทก์ร่วมกับจำเลยเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่จำเลย ร้องเรียนโจทก์ร่วมทำรั้วต่อจากรั้วเดิมติดบ้านของจำเลยและสร้างกันสาดด้านหลังบ้านโดยยังไม่ยุติว่าข้อพิพาทเกิดขึ้นจากความรับผิดของฝ่ายใด ต่างฝ่ายต่างโต้เถียงกันไปมาไม่ฟังกัน บรรยากาศเหมือนจะทะเลาะกัน แต่โจทก์ร่วมไม่ได้กล่าวถ้อยคำใดที่มีลักษณะเป็นการดูหมิ่นหรือใส่ความจำเลย ถ้อยคำที่โจทก์ร่วมพูดว่า “เงินก็ของฉัน บ้านก็ของฉัน การสร้างรั้วก็เงินของฉัน” เป็นเพียงการบรรยายความรู้สึกของโจทก์ร่วมต่อกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านในเชิงตัดพ้อมิได้มีลักษณะ เป็นการพูดกระทบจำเลย จึงไม่มีพฤติการณ์ใดที่จำเลยจะอ้างว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเจรจาจนต้องพูดย้อนคำของโจทก์ร่วมว่า “แสดงถึงมารยาทเห็นไหมคะ ว่าเขาไม่ได้มีความเข้าใจอะไรเลย คนมันมีการศึกษา มันไม่มีมารยาท มันสะกดคำว่าสามัญสำนึกกับคำว่ามารยาทไม่เป็น มันก็เลยเป็นอย่างนี้แหละ กระจกมันเลยสะท้อนเข้าตัวเองนั่นแหละ” และถ้อยคำที่ว่า “ไม่ต้องขอบคุณเลยค่ะ คนอย่างเธอนะ ซวยที่ต้องมาเจอ เพื่อนบ้านเลวๆแบบนี้” จำเลยกล่าวขึ้นหลังจากโจทก์ร่วมไม่ประสงค์จะเจรจาต่อและจะเดินทางกลับ เช่นนี้ข้อความที่จำเลยกล่าวเป็นข้อความที่จำเลยสื่อสารกับบุคคลที่สามที่อยู่ในห้องประชุมถึงพฤติกรรมของโจทก์ร่วม ซึ่งตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ให้ความหมายของคำว่า “มารยาท” ว่ากิริยาวาจาที่ถือว่าสุภาพเรียบร้อยถูกกาลเทศะ ส่วนคำว่า “สามัญสำนึก” ว่าความสำนึก หรือความเฉลียวใจที่คนปกติธรรมดาทั่วไปควรจะต้องรู้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับคำแนะนำสั่งสอน และคำว่า “เลว” ว่า ต่ำ ทราม เช่น มารยาทเลว ถ้อยคำที่จำเลยว่าโจทก์ร่วมให้บุคคลที่สามฟังนอกจากจะมีลักษณะเป็นการดูถูกเหยียดหยามและสบประมาทโจทก์ร่วมแล้ว โดยเฉพาะถ้อยคำตอนท้ายที่ว่า “มีเพื่อนบ้านเลวๆแบบนี้” วิญญูชนทั่วไปย่อมอาจเข้าใจว่า จำเลยเจาะจงว่าโจทก์ร่วมเป็นคนต่ำทราม เห็นแก่ตัว มีกิริยาวาจาหยาบ ไม่มีสำนึกเช่นคนปกติทั่วไป และย่อมเป็นคนโชคร้ายหากต้องพักอาศัยอยู่ใกล้ หาใช่เป็นเพียงการระบายความรู้สึกของจำเลยไม่ ทำให้โจทก์ร่วมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง อันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์ร่วมแล้ว

จำเลยกล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทโจทก์ร่วมในระหว่างเจรจาไกล่เกลี่ยซึ่งมีบุคคลที่สามรับฟังไม่มาก การให้จำเลย ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมตาม ป.พ.พ. มาตรา 423 ย่อมเป็นการเพียงพอที่จะเยียวยาความเสียหายของโจทก์ร่วมแล้ว ไม่มีเหตุสมควรที่จะมีคำสั่งให้จำเลยจัดทำป้ายไม้อัดมีข้อความในทำนองขออภัยโจทก์ร่วมตาม ป.พ.พ.มาตรา 447 เพราะไม่ได้สัดส่วนกับการกระทำของจำเลย

(หมายเหตุ 1 คดีนี้จำเลยกล่าวข้อความดังกล่าวภายหลังจากโจทก์ร่วมไม่ประสงค์จะเจรจาต่อและจะเดินทางกลับ ข้อความที่จำเลยกล่าวเป็นข้อความที่จำเลยสื่อสารกับบุคคลที่สามที่อยู่ในห้องประชุมถึงพฤติกรรมของโจทก์ร่วม

2 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องและยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

3 ศาลฎีกาพิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 326 จำคุก 1 เดือน และปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี)

(หลักกฎหมาย ป.อ.มาตรา 326 ป.พ.พ.มาตรา 423 ป.วิ.อ.มาตรา 44/1)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849