ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …
3185.ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลยกที่ดิน ส.ป.ก.ให้แก่คู่ความ
คำพิพากษาฎีกาที่ 3637/2566 (เล่ม 10 หน้า 2389) ที่ดินพิพาทสองแปลงได้มีการขอหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก. 4-01 ก) ในชื่อ ค. และ ย. บิดามารดาของจำเลยที่ถึงแก่ความตายไปแล้ว ซึ่งตาม พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มาตรา 39 จะโอนสิทธิในที่ดินนั้นไปยังผู้อื่นมิได้ เว้นแต่เป็นการตกทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธรรม ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง การที่จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ว่า หากฝ่ายจำเลยไม่สามารถซื้อหรือหาคนมาซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 2324 คืนได้ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2563 ฝ่ายโจทก์จะคืน ส.ป.ก. 4-01 ก. และใบ ภ.บ.ท.5 ให้แก่จำเลย และจำเลยจะโอนที่พิพาทสองแปลงตามใบ ภ.บ.ท. 5 ให้แก่โจทก์ ถือว่าเป็นกรณีที่จำเลยในฐานะทายาทโดยธรรมของ ค.และ ย. บุคคลผู้ได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตกลงโอนสิทธิในที่ดินพิพาททั้งสองแปลงซึ่งเป็นที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก. 4-01 ก) ให้แก่โจทก์แล้ว นิติกรรมระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงต้องห้ามชัดแจ้งตามกฎหมายตกเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 150
ค. และ ย. ซึ่งได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก. 4-01 ก) ถึงแก่ความตาย ที่ดินพิพาทยังเป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตาม พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มาตรา 36 ทวิ ทั้งคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมยังไม่ได้พิจารณาและอนุมัติให้จำเลยซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของ ค. และ ย. มีสิทธิเข้าทำประโยชน์ในที่พิพาทตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมกำหนด จำเลยย่อมไม่มีสิทธิในที่ดินพิพาทที่จะนำไปตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความแก่โจทก์เช่นกัน การกระทำของจำเลยหาเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ไม่ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกมาจากที่ดินพิพาทและให้จำเลยส่งมอบที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์
(หมายเหตุ 1 ผู้ได้รับใบอนุญาต ส.ป.ก. 4-01 ก. ถึงแก่ความตาย ทายาทของผู้ที่ได้รับ ส.ป.ก. 4-01 ก. จะนำ ส.ป.ก. 4-01 . ไปตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลไม่ได้ นิติกรรมของคู่ความต้องห้ามชัดแจ้งตามกฎหมายตกเป็นโมฆะ
2 ข้อเท็จจริงในทางพิจารณา โจทก์เบิกความตอบทนายจำเลยถามค้านว่า โจทก์ทราบว่าที่ดินตามใบ ภ.บ.ท. 5 ทั้ง 2 ฉบับ มีการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปรูปที่ดิน ในชื่อบิดามารดาของจำเลยแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเมื่อใด
3 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยพร้อมบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากที่ดินตามใบ ภ.บ.ท 5 และให้ส่งมอบที่ดินให้แก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อยใช้การได้ดี
4 ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
5 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยข้างต้น โดยพิพากษายืน)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ และกรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849