ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …
3629.อยู่ในเหตุการณ์แต่ไม่ห้ามปราม หลังเกิดเหตุหลบหนีไปด้วยกัน ถือว่าเป็นตัวการกระทำความผิด
คำพิพากษาฏีกาที่ 1976/2567 (เล่ม 8 หน้า 1764) จำเลยที่ 2 ซึ่งนั่งซ้อนท้ายลงจากรถจักรยานยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับขี่แล้วมาดึงตัวผู้เสียหายลงไปในคลองหลังจากจำเลยที่ 1 ใช้ไม้ไผ่ตีทำร้ายผู้เสียหายที่แขนซ้ายและบริเวณมือขวาซึ่งไม่ทำให้ มีผลดั่งเช่นที่ผู้ตายได้รับ แล้วจำเลยที่ 2 กดผู้เสียหายลงไปในน้ำความลึกประมาณเอวเป็นเวลาถึง 3 นาที จำเลยที่ 2 ย่อมรู้ดีว่าจะทำให้ผู้เสียหายจมน้ำเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แสดงว่ามีเจตนาที่จะให้ผู้เสียหายได้รับผลแห่งการกระทำเช่นเดียวกันกับที่ผู้ตายได้รับ การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่าผู้เสียหายหาใช่เป็นเพียงเจตนาทำร้ายไม่ จำเลยที่1 อยู่และเห็นเหตุการณ์โดยตลอด แต่กลับไม่กระทำการใดๆ ในทางห้ามปรามหรือหยุดยั้งจำเลยที่ 2 ทั้งหลังเกิดเหตุยังหลบหนีไปด้วยกัน พฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 เป็นการยอมรับเอาการกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการกระทำของตนเช่นกัน จำเลยที่ 1 จึงเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้เสียหาย
(หลักกฎหมาย ป.อ.มาตรา 83)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849