รวมคำพิพากษาศาลฎีกา » ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

21 พฤษภาคม 2025
105   0

Lawyer Council Online Share

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3628.ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ

คำพิพากษาฎีกาที่ 5433/2567 (เล่ม 9 หน้า 2016) จำเลยที่ 1 เอาโทรศัพท์เคลื่อนที่และกระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายไปแล้ว จำเลยที่ 1 แกล้งบอกให้ผู้เสียหายขึ้นรถไปสถานีตำรวจพร้อมกับจำเลยทั้งสองซึ่งไม่เป็นความจริง หากแต่เป็นเพียงกลอุบายหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ผู้เสียหายขัดขืนและขอทรัพย์สินคืน จำเลยที่ 1 กระชากคอเสื้อผู้เสียหายพร้อมกับบอกให้จำเลยที่ 2 หยิบอาวุธปืนมาให้จำเลยที่ 1 แล้วจำเลยที่ 2 ทำท่าทางเหมือนกับจะหยิบเอาอาวุธปืนจากลิ้นชักในรถให้แก่จำเลยที่ 1 อันเป็นการแสดงกิริยาท่าทางขู่เข็ญหรือข่มขู่เพื่อให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวไม่กล้าขัดขืนและยินยอมมอบทรัพย์สินให้แก่จำเลยทั้งสองไป การกระชากคอเสื้อและการแสดงกิริยาขู่เข็ญหรือข่มขู่ผู้เสียหายของจำเลยทั้งสองเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องติดต่อในทันใดยังไม่ขาดตอน ด้วยมีเจตนาประสงค์มุ่งหมาย จะเอาโทรศัพท์เคลื่อนที่และทรัพย์สินของผู้เสียหายไปให้ได้ จึงมีลักษณะเป็นการลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้โดยใช้ยานพาหนะ รถกระบะที่จำเลยทั้งสองขับไปตามถนนเพื่อประสงค์จะเอาทรัพย์ของบุคคลที่พบเห็นเพื่อกระทำผิด การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะตาม ป.อ. มาตรา 339 วรรคสอง ประกอบมาตรา 340 ตรี

(หมายเหตุ 1 คดีนี้เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถกระบะมาจอดข้างรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 ลงจากรถเรียกให้ผู้เสียหายจอดรถ โดยจำเลยที่ 1 พกวิทยุสื่อสารมาด้วยทำท่าทีเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมาขอตรวจดูหนังสือเดินทางและโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหาย ส่วนจำเลยที่ 2 ขยับมานั่งคนขับแทนจำเลยที่ 1

2 การที่จำเลยที่ 1 บอกให้ผู้เสียหายขึ้นรถไปสถานีตำรวจกับจำเลยทั้งสองก็เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อว่าจำเลยทั้งสองเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ

3 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 335(7) วรรคแรก ประกอบมาตรา 336 ทวิ

4 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 339 วรรคสอง ประกอบมาตรา 340 ตรี

5 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยข้างต้น โดยพิพากษายืน)

(หลักกฎหมาย ป.อ.มาตรา 339, 340 ตรี)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849