ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …
3115.การข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย ไม่ทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆียะ
คำพิพากษาฎีกาที่ 2401/2566 (หน้า 1739 เล่ม 7) ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 61/2 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้มีคณะบุคคลผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทของประชาชนที่คู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอในเรื่องที่พิพาททางแพ่งเกี่ยวกับที่ดิน มรดก และข้อพิพาททางแพ่งอื่นที่มีทุนทรัพย์ไม่เกินสองแสนบาท หรือมากกว่านั้นตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา เมื่อข้อพิพาทระหว่าง จ. และผู้คัดค้านเป็นข้อพิพาททางแพ่งเกี่ยวกับที่ดิน จึงไม่ต้องพิจารณาว่ามีทุนทรัพย์เท่าใดอีก ย่อมสามารถไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทได้
การข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย ถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่จะพึงใช้ได้ตามปกตินิยม ไม่ใช่การข่มขู่ อันจะทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆียะ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 165
คดีร้องขอให้ออกคำบังคับให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 61/2 วรรคเจ็ด ประกอบ พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 42 ถึง 44 มิได้ให้ผู้ซึ่งจะถูกบังคับ ตามสัญญาประนีประนอมยอมความพิสูจน์โต้แย้งข้อเท็จจริงในการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท และศาลไม่อาจตรวจสอบข้อเท็จจริงในชั้นไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินนั้นซ้ำอีก
( หมายเหตุ 1 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 นาย จ.และผู้คัดค้านทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ตาม กฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง พ.ศ.2553 แต่ผู้คัดค้านไม่ปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว
2 พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ออกคำบังคับตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
3 ผู้คัดค้านอ้างว่า นาย จ. ส่งคนมาข่มขู่ผู้คัดค้านให้ยอมรับตามเงื่อนไขหากไม่ยอมครอบครัวของผู้คัดค้าน รวมถึงผู้คัดค้านเองจะได้รับความเดือดร้อน และจะดำเนินคดีแก่บิดาของผู้คัดค้านเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าไปลักทรัพย์ของนาย จ.
4 ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า กรณีเป็นเรื่องที่พิพาททางแพ่งเกี่ยวกับที่ดิน แม้มีทุนทรัพย์เกินสองแสนบาท ก็สามารถไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทได้ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 61/22 วรรคหนึ่ง และมีคำสั่งออกคำบังคับให้ผู้คัดค้านปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความภายใน 30 วัน นับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น
5 ผู้คัดค้านอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์
6 ผู้คัดค้านอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 4 วินิจฉัยว่าไม่มีอำนาจพิจารณา และให้ส่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์พร้อมสำนวนไปยังศาลฎีกาเพื่อพิจารณาต่อไป
7 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย ถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่จะพึงใช้ได้ ตามปกตินิยม ไม่ใช่การข่มขู่อันจะทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆียะ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 165 โดยพิพากษายืน)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ และกรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849