ข่าวกิจกรรม » ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

20 พฤศจิกายน 2024
2566   0

Lawyer Council Online Share

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3449.ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อไม่เหมาะสมกับการใช้งาน ผู้ให้เช่าซื้อไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786/2567 สัญญาเช่าซื้อเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อไม่เหมาะสมแก่การใช้งาน จำเลยมีสิทธิบ่ายเบี่ยงไม่ชำระค่าเช่าซื้อแก่โจทก์ได้โดยไม่ถือว่าผิดนัด โจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา การที่โจทก์ติดตามทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนจากจำเลยและจำเลยมิได้โต้แย้ง สัญญาเช่าซื้อจึงเลิกกันโดยปริยาย เมื่อเหตุแห่งการสิ้นสุดของสัญญาสืบเนื่องมาจากความผิดของโจทก์ที่ไม่ได้ดำเนินการเพื่อให้จำเลยจดทะเบียนรถที่เช่าซื้อต่อกรมการขนส่งทางบกและได้ความว่าเอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนสูญหายไป การที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจเพิกเฉยต่อการจดทะเบียนรถที่เช่าซื้อให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยไม่ปรากฏจากข้อนำสืบของโจทก์ว่าตามปกติประเพณีในการทำสัญญาเช่าซื้อที่ถือปฏิบัติกันมาผู้ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อรถบรรทุกหรือรถหางพ่วงพร้อมอุปกรณ์โดยทั่วไปจะถือว่าตนมีหน้าที่เพียงส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อให้ใช้ประโยชน์เท่านั้น ส่วนการดำเนินการทางทะเบียนและเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนซึ่งตนเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์จะมีอยู่และต้องจัดการอย่างไรไม่ใช่ข้อสำคัญที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องคำนึงถึงดังเช่นที่โจทก์ปฏิบัติ ประกอบกับปรากฏว่าเอกสารต่าง ๆ ของสัญญาเช่าซื้อที่โจทก์ทำกับผู้บริโภครายอื่นสูญหายอีกจำนวนมาก ข้อเท็จจริงที่กล่าวมานับว่าการประกอบธุรกิจของโจทก์ย่อหย่อนมิได้กระทำไปด้วยความสุจริตโดยคำนึงถึงมาตรฐานทางการค้าที่เหมาะสมภายใต้ระบบธุรกิจที่เป็นธรรมตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 12 ดังนี้ เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกันโดยปริยายกับทั้งโจทก์มีพฤติการณ์ในการประกอบธุรกิจดังที่วินิจฉัยมาข้างต้น จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าขาดราคา เบี้ยปรับ ค่าติดตามรถบรรทุกที่เช่าซื้อให้แก่โจทก์

(หมายเหตุ 1 ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้ออีซูซุและรถหางพ่วงพร้อมอุปกรณ์จากโจทก์ แต่จำเลยไม่ได้ชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่งวดแรก โจทก์จึงมีหนังสือบอกกล่าวทวงถามและบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลย และโจทก์ติดตามรถบรรทุกสิบล้อที่เช่าซื้อและรถหางพ่วงกลับคืนจากจำเลย โดยรถบรรทุกสิบล้อและรถหางพ่วงมีสภาพชำรุดทรุดโทรม

2 ทางพิจารณาได้ความว่า ภายหลังจากทำสัญญาเช่าซื้อโจทก์เพียงส่งมอบรถบรรทุกสิบล้อและรถหางพ่วงพร้อมอุปกรณ์ให้จำเลยครอบครองใช้สอยตามสัญญาเท่านั้น แต่โจทก์มิได้จดทะเบียนรถหรือดำเนินการใดเพื่อให้จำเลยจดทะเบียนรถที่เช่าซื้อต่อกรมการขนส่งทางบกได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนสูญหาย ซึ่งจำเลยถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมและเปรียบเทียบปรับอยู่เป็นประจำ

3 และยังได้ความอีกว่าเอกสารต่าง ๆ ของสัญญาเช่าซื้อที่โจทก์ทำไว้กับผู้บริโภครายอื่นยังมีเอกสารสูญหายอีกจำนวนมากจนโจทก์ต้องไปลงบันทึกประจำวันรับแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

4 ศาลอุทธรณ์ภาค 4 แผนกคดีผู้บริโภค พิพากษาว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดชำระค่าขาดราคา เบี้ยปรับและค่าติดตามรถบรรทุกที่เช่าซื้อแก่โจทก์นั้น โดยพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยชำระค่าขาดประโยชน์ให้แก่โจทก์เป็นเงิน161,000 บาท

5 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อไม่เหมาะสมแก่การใช้งาน โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยชอบที่จะบ่ายเบี่ยงไม่ชำระค่าเช่าซื้อแก่โจทก์ตาม ป.พ.พ.มาตรา 369 โดยไม่ถือว่าจำเลยผิดนัด และโจทก์ผู้ผิดสัญญาไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาต่อจำเลยได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 386 สัญญาเช่าซื้อจึงมิได้เลิกกันตามที่โจทก์บอกเลิกสัญญา

6 ส่วนค่าขาดประโยชน์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เป็นค่าเสียหายที่โจทก์คาดคิดเองโดยไม่มีเอกสารหลักฐานมาสนับสนุนว่า โจทก์นำรถยนต์ที่เช่าซื้อออกให้บุคคลใดเช่าและได้รับค่าเช่าในอัตราที่กล่าวอ้างทุกเดือน เมื่อโจทก์ไม่อาจนำสืบให้เห็นถึงค่าเสียหายตามที่โจทก์เรียกร้อง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 เห็นพ้องกันกับศาลชั้นต้นไม่กำหนดค่าเสียหายเป็นค่าขาดประโยชน์ให้เต็มตามคำขอของโจทก์จึงชอบแล้ว)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849