ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …
3204.ชักชวนให้ร่วมลงทุนผ่านเฟชบุ๊กเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรม
คำพิพากษาฎีกาที่ 4006/2566 (เล่ม 10 หน้า 2491) การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปลอม หรือเป็นเท็จเพื่อจะกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องและโดยมีเจตนาเดียวโดยมุ่งหมายเพื่อจะให้ได้เงินจากผู้เสียหายหรือประชาชนทั่วไปที่เข้าไปใช้บริการสื่ออินเทอร์เน็ตผ่านเว็บไซต์เฟชบุ๊กของจำเลย ทั้งนี้โดยไม่คำนึงถึงว่าจะมีการพิมพ์โพสต์แสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือส่งมอบเงินหรือโอนเงินให้กันอีกครั้งก็ตาม การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว หาใช่ความผิดหลายกรรมต่างกันไม่
จำเลยแก้ฎีกาโจทก์และขอให้รอการลงโทษจำคุกแก่จำเลย เป็นการขอให้ศาลฎีกาเปลี่ยนแปลงผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ซึ่งต้องกระทำโดยยื่นเป็นคำฟ้องฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 มิใช่ขอมาในคำแก้ฎีกา คดีไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยให้
ก่อนศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษา จำเลยชำระเงินคืนผู้เสียหายตามจำนวนที่ตกลงกันจนผู้เสียหายยื่นคำแถลง ไม่ติดใจดำเนินคดีกับจำเลยแล้ว ศาลฎีกาเห็นควรแก้ไขในส่วนคำขอของโจทก์ที่ให้จำเลยคืนเงินแก่ผู้เสียหาย
(หมายเหตุ 1 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 343 วรรคแรก, พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14(1) เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป มีเหตุบรรเทาโทษ รวมจำคุก 1 ปี 6 เดือน ให้จำเลยคืนเงิน 81,988 บาท แก่ผู้เสียหาย
2 ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท เมื่อลดโทษแล้วให้จำคุก 6 เดือน
3 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยข้างต้นโดยพิพากษายืนแต่ให้ยกคำขอของโจทก์ที่ให้จำเลยคืนเงินแก่ผู้เสียหาย)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ และกรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849