ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …
3418.นำถ้อยคำในชั้นไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในคดีอื่นมาเป็นพยานหลักฐานในคดีใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2566 (ประชุมใหญ่) ถ้อยคำที่จำเลยด่าว่าโจทก์ขณะที่มีข้อโต้เถียงกันในระหว่างการไกล่เกลี่ยคดีอื่น อันมิใช่ข้อเท็จจริงที่คู่ความคดีดังกล่าวนำมาเป็นข้อพิจารณาในคดีนั้น โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยของผู้ประนีประนอมในศาลชั้นต้นคดีดังกล่าวจึงนำถ้อยคำที่จำเลยแถลงระหว่างการไกล่เกลี่ยนั้นมาอ้างอิงหรือนำสืบเป็นพยานหลักฐานพิสูจน์ต่อศาลในคดีนี้ได้ ไม่ถือว่าเป็นความลับอันต้องห้ามตามข้อกำหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการไกล่เกลี่ย พ.ศ. 2554 ข้อเท็จจริงดังกล่าวนำมารับฟังเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้ภายใต้บังคับตาม ป.วิ.พ. มาตรา 85
(หมายเหตุ 1 จำเลยด่าว่าโจทก์ซึ่งเป็นบิดาในขณะที่มีข้อโต้เถียงกันในระหว่างการไกล่เกลี่ยคดีฟ้องขับไล่คดีอื่นว่า “ทรัพย์สินทั้งหมดแม่เป็นคนหามาคนเดียว พ่อไม่ได้ทำอะไรเลย เอาแต่เที่ยวกลางคืนใช้เงินที่แม่หาไปวัน ๆ พ่อเป็นแค่คนขับรถเท่านั้น ไม่เคยช่วยทำมาหากิน”
2 โจทก์จึงมาฟ้องจำเลย ขอให้เพิกถอนการให้ที่ดินคืนโจทก์
3 ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่วินิจฉัยว่า โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่เข้าร่วมในการไกล่เกลี่ยของผู้ประนีประนอมในศาลชั้นต้นคดีดังกล่าวจึงนำถ้อยคำที่จำเลยแถลงในระหว่างการไกล่เกลี่ยมาอ้างอิงหรือนำสืบเป็นพยานหลักฐานพิสูจน์ต่อศาลในคดีนี้ได้ ไม่ถือว่าเป็นความลับอันต้องห้ามตามข้อกำหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการไกล่เกลี่ย พ.ศ. 2554
4 และศาลฎีกาวินิจฉัยต่อไปว่า ข้อความดังกล่าวเป็นเพียงการแสดงความเห็นจากประสบการณ์ของจำเลยโดยไม่มีสัมมาคารวะและไม่เคารพยำเกรงโจทก์ผู้เป็นบิดา หาใช่เจตนาทำให้โจทก์ต้องเสียชื่อเสียงหรือเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงไม่ จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์อันจะเป็นเหตุให้โจทก์เรียกถอนคืนการให้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 531 (2)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849