ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …
3295.ไม่เสียค่าขึ้นศาลภายในกำหนดเวลาตามที่ศาลมีคำสั่ง ศาลจะต้องมีคำสั่งอย่างไร
คำพิพากษาศาลฏีกาที่ 1592/2566 (เล่ม 6 หน้า 23) โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องให้จำเลยคืนเงินมัดจำ 250,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2558 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ฟ้องโจทก์จึงเป็นคำฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 150 ซึ่งวิธีการคำนวณทุนทรัพย์ ป. วิ.พ.มาตรา 190(1) บัญญัติไว้ว่า ให้คำนวณตามคำเรียกร้องของโจทก์ คดีนี้จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์จำนวน 250,000 บาท บวกด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่โจทก์วางเงินต่อจำเลยถึงวันฟ้อง ซึ่งเมื่อคำนวณรวมกันแล้วจะเป็นทุนทรัพย์จำนวน 468,750 บาท คดีนี้ จึงไม่ใช่คดีมโนสาเร่ที่จะดำเนินคดีอย่างคดีมโนสาเร่ตามที่บัญญัติไว้ในลักษณะ 2 วิธีพิจารณาวิสามัญในศาลชั้นต้น หมวด 1 วิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 189(1) แต่เป็นคดีแพ่งสามัญ ซึ่งต้องเสียค่าขึ้นศาลในอัตราร้อยละ 2 ของทุนทรัพย์ แต่โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพียง 200 บาท ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์ เสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ภายใน 7 วัน แล้วโจทก์ไม่ชำระภายในกำหนดดังกล่าว ศาลชั้นต้นชอบที่จะมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 18 วรรคสอง ที่ศาลชั้นต้นให้จำหน่ายคดีโจทก์โดยถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ซึ่งมีผลเท่ากับศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว
โจทก์ยื่นคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดี โดยมิได้ยื่นพร้อมกับคำฟ้องตามที่ ป.วิ.พ.มาตรา 156 บัญญัติไว้ คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลของโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย
(หมายเหตุ 1 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ภายใน 7 วัน แล้วโจทก์ไม่ชำระภายในกำหนดดังกล่าว ศาลชั้นต้นชอบที่จะมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 18 วรรคสอง)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849