ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …
3233.คดีเดิมได้รับโทษจำคุก คดีใหม่รอการลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2566 (เล่ม 3 หน้า 143) แม้จำเลยจะเคยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก 9 เดือน ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน และฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจำคุก 3 เดือน ซึ่งตาม ป.อ.มาตรา 56 (ที่แก้ไขใหม่) บัญญัติว่า “ผู้ใดกระทำความผิดซึ่งมีโทษจำคุกหรือปรับ และในคดีนั้นศาลจะลงโทษจำคุกไม่เกินห้าปีไม่ว่าจะลงโทษปรับด้วยหรือไม่ก็ตามหรือลงโทษปรับ ถ้าปรากฏว่าผู้นั้น…..(2) เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน….. หรือเป็นโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน……” จากบทบัญญัติดังกล่าวหมายความว่า แม้จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน แต่ถ้าโทษตามคำพิพากษาในคดีก่อนเป็นการลงโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนก็ยังอยู่ในเงื่อนไขที่จะรอการลงโทษจำคุกจำเลยได้ ดังนั้น เมื่อคดีก่อนศาลพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดทั้งสองฐานดังกล่าวให้จำคุกกระทงละไม่เกิน 6 เดือน กรณีจึงมีเหตุให้รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยได้ ตาม ป.อ.มาตรา 56(2) แต่เพื่อให้จำเลยหลาบจำจึงให้คุณความประพฤติไว้ด้วย
(หมายเหตุ 1 ในคดีนี้ โจทก์ร่วมมีส่วนก่อให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และโจทก์ร่วมแถลงไม่ติดใจเอาความทั้งทางแพ่งและทางอาญา โดยจำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ร่วม 100,000 บาท
2 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน
3 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 4 เดือน
4 ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยข้างต้น โดยพิพากษาแก้เป็นว่าให้รอการลงโทษจำคุกจำเลย มีกำหนด 2 ปี)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ และกรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849