ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …
3471.เพียงแต่เห็นผู้เสียหายเดินมาพร้อมกับภริยา ไม่ถือว่าเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรง
คำพิพากษาฎีกาที่ 331/2567 (เล่ม 1 หน้า 145) ผู้เสียหายเดินออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุกับ ด. ที่จำเลยอาศัยอยู่กินฉันสามีภริยากับ ด. โดยไม่ปรากฏว่ามีการกระทำใดที่อาจทำให้จำเลยเข้าใจไปได้ว่าผู้เสียหายกับ ด. มีความสัมพันธ์กันในทางชู้สาว ยังถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การกระทำของจำเลยที่พยายามฆ่า ผู้เสียหายโดยเจตนาจึงมิใช่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ
ได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 พ.ศ. 2565 ออกใช้บังคับซึ่งมีผลให้พืชกัญชาไม่เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 อีกต่อไป การมีพืชกัญชาไว้ในครอบครองจึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26/2, 176 และ ป.ยาเสพติด มาตรา 93, 148 ตาม ป.อ. มาตรา 2 วรรคสอง ถือว่าจำเลยไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีก่อนให้ลงโทษจำคุกฐานมียาเสพติดให้โทษในประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย เช่นนี้ไม่อาจนำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ได้
(หมายเหตุ 1.คำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายที่ 3 นางสาว ด. และนางสาว ร. ปรากฏว่าจำเลยหลบหนี ออกไปจากที่เกิดเหตุภายหลังผู้เสียหายที่ 3 วิ่งไปเอามีดสปาต้าที่สอดอยู่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ของนางสาว ร. ที่จอดอยู่ บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุออกมา การที่นางสาว ร. มีมีดสปาต้าจอดอยู่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์แสดงว่า ท้องที่ที่เกิดเหตุ อาจเป็นท้องที่ที่ผู้คนทั่วไปจำเป็นต้องมีอาวุธติดตัวหรือซุกซ่อนไว้ในยานพาหนะเพื่อใช้ป้องกันตนเอง จำเลยจึงอาจนำอาวุธมีดของกลางติดตัวไปบ้านที่เกิดเหตุเพียงเพื่อใช้ในการป้องกันตนเองก็เป็นได้
2. ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
3. ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849