รวมคำพิพากษาศาลฎีกา » ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ

8 มกราคม 2024
16114   0

Lawyer Council Online Share

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ

3134.เอกสารแนบท้ายอุทธรณ์ ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้รับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2739/2565 (หน้า 64 เล่ม 8) ที่ดินพิพาทเป็นที่ดิน ส.ป.ก.ผู้มีชื่อได้รับอนุญาตให้ครอบครอง ย่อมไม่อาจทำนิติกรรมหรือแสดงเจตนาจำหน่าย จ่ายโอนแก่บุคคลอื่นได้ ยกเว้นกรณีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้

ด.บิดาโจทก์แสดงเจตนาสละสิทธิครอบครองและยกให้แก่จำเลยตามคำร้อง/คำขอต่อสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัด เท่ากับว่าจำเลยเข้าทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทโดยสวมสิทธิของ ด. ซึ่งไม่มีบทกฎหมายบัญญัติรับรองวิธีการดังกล่าว ทั้งไม่ปรากฏว่าสำนักงานการปฏิรูปที่ดินอนุญาตให้จำเลยเข้าทำประโยชน์ที่ดินพิพาทตามคำร้อง/คำขอที่อ้าง ซึ่งตามบันทึกข้อความของจำเลยให้ถ้อยคำว่า หากไม่ได้รับอนุญาตเข้าทำประโยชน์แทน ด. จำเลยยินดีจับฉลากร่วมกับเกษตรกรรายอื่นๆ แต่จำเลยไม่ได้เข้าสู่กระบวนการจัดสรรที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมกำหนดไว้ นอกจากนี้ ตามหนังสือชี้แจงเรื่องการสละสิทธิในที่ดิน ส.ป.ก. ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การสละสิทธิของเกษตรกรมีผลเป็นการสิ้นสุดทันทีตามระเบียบคณะกรรมการการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วย การให้เกษตรกร และสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยสิทธิการครอบครองจะคืนกลับสำนักงานการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม สำหรับดำเนินการจัดสิทธิให้แก่เกษตรกรรายใหม่ตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกเกษตรกร ซึ่งจะมีสิทธิได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ผู้ที่ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการจัดสรรที่ดินโดยถูกต้องตามกฎหมาย ย่อมไม่อาจอ้างสิทธิในการเข้าครอบครองทำประโยชน์โดยอาศัยเหตุจากการสละสิทธิได้ ดังนั้น แม้จำเลยได้ครอบครองทำประโยชน์ ในที่ดินพิพาทมากว่า 20 ปี ตามที่อ้างว่า ด. สละสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยนั้น ก็ไม่อาจทำให้จำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายได้

หลักฐานการขอสละสิทธิที่ดินพิพาทตามเอกสารแนบท้ายอุทธรณ์นั้น เมื่อไม่ปรากฏว่า จำเลยได้อ้างบัญชีระบุพยานไว้หรือมีคำขออนุญาตยื่นบัญชีระบุพยานในภายหลังเพื่อสืบพยานหลักฐานดังกล่าว เป็นการไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 88 วรรคสาม ประกอบมาตรา 246 จึงไม่อาจรับฟังได้

โจทก์ได้ยื่นคำขอรับมรดกสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทต่อสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดตาม พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มาตรา 39 โดยไม่ได้ความว่าสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดเพชรบูรณ์เรียกคืนที่ดินพิพาทเพราะเหตุตามที่จำเลยอ้างว่า ด.สละสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท โจทก์ในฐานะผู้สืบสิทธิของ ด. จึงชอบที่จะฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้

(นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849)