ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …
3609.พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมภายหลังจากที่มีการยื่นฟ้องแล้ว โจทก์ขอแก้ไขคำฟ้องได้หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3462/2567 (เล่ม 4 หน้า 168)(ประชุมใหญ่) แม้การพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบจะใช้ระบบไต่สวนซึ่งศาลมีอำนาจแสวงหาข้อเท็จจริงได้เอง แต่กรณียังคงต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่ง ป.วิ.อ. ซึ่งตาม ป.วิ.อ. มาตรา 120 ที่นำมาใช้บังคับแก่คดีนี้ด้วยตามมาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ. วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้อัยการยื่นฟ้องคดีใดต่อศาลโดยมิได้มีการสอบสวนในความผิดนั้นก่อน” ดังนี้ ถ้าพนักงานอัยการฟ้องคดีโดยมิได้มีการสอบสวนก่อนหรือมีการสอบสวนแล้วแต่การสอบสวนไม่ชอบ ซึ่งต้องถือว่าไม่มีการสอบสวนเช่นกัน เมื่อการฟ้องไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะพนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลจึงไม่มีอำนาจสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องในส่วนผู้กระทำความผิด มูลฐานและพฤติการณ์อันเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการจากเดิม ซึ่งมีพฤติการณ์การกระทำความผิดที่แตกต่างกัน และเพิ่งมีการสอบสวนเพิ่มเติมภายหลังจากโจทก์ฟ้องคดีนี้แล้วได้ เพราะการจะสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องตาม พ.ร.บ.วิธืพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 มาตรา 15 วรรคสาม นั้น ฟ้องเดิมจะต้องเป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว เพียงแต่เป็นกรณีที่ฟ้องเดิมไม่สมบูรณ์ โดยไม่ได้บรรยายคำฟ้องให้ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น
(หมายเหตุ 1 โจทก์ฎีกาว่า การที่โจทก์สั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมภายหลังจากที่ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลแล้ว ถือเป็นการค้นหาความจริงเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนขึ้นและถือว่ามีการสอบสวนในความผิดของจำเลยทั้งสามตามที่ได้มีการกล่าวหาเพิ่มเติมแล้ว ที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องตามข้อเท็จจริงที่ได้ความจากการสอบสวนเพิ่มเติมเป็นการที่ศาลใช้อำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อประโยชน์แห่งคดี
2 ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่มีคำวินิจฉัยข้างต้น)
(หลักกฎหมาย ป.วิ.อ.มาตรา 120, 158 พ.ร.บ.วิธีพิจาราณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 6 , 15 วรรคหนึ่ง วรรคสาม)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849