รวมคำพิพากษาศาลฎีกา » ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

1 มกราคม 2025
2376   0

Lawyer Council Online Share

 

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …

3490.อายุความจ้างว่าความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2033/2567 สัญญาจ้างว่าความเป็นสัญญาจ้างทำของตาม ป.พ.พ. มาตรา 587 ถือเอาผลสำเร็จแห่งการงานที่จ้างเป็นสำคัญ และการจ่ายสินจ้างถือเอาความสำเร็จของผลงานหรือตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อสัญญาจ้างดังกล่าวกำหนดชำระค่าจ้าง 3 งวด แต่มีเฉพาะงวดที่ 1 เท่านั้น ที่ถึงกำหนดชำระ ต้องถือว่าเงินที่จำเลยที่ 1 ชำระให้แก่โจทก์ทั้ง 9 ครั้ง เป็นการชำระหนี้ในงวดที่ 1 ซึ่งถึงกำหนดชำระแล้ว ตามมาตรา 328 วรรคสอง อันมีผลทำให้อายุความในหนี้ค่าจ่างว่าความงวดที่ 1 สะดุดหยุดลงตามมาตรา 193/14 (1) และต้องเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันชำระหนี้ครั้งสุดท้ายตามมาตรา 193/15 วรรคสอง คำฟ้องโจทก์เป็นการฟ้องเรียกเอาค่าการงานมีอายุความ 2 ปี ตามมาตรา 193/34 (16) เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ยังไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันที่จำเลยที่ 2 ชำระหนี้ครั้งสุดท้าย ฟ้องโจทก์ในส่วนของจำเลยที่ 2 จึงไม่ขาดอายุความ

อย่างไรก็ตาม จำเลยทั้งสองเป็นลูกหนี้ร่วมในสัญญาจ้างว่าความ มูลความแห่งคดีเป็นการชำระหนี้ซึ่งแบ่งแยกจากกันมิได้ การที่จำเลยที่ 2 ยกอายุความขึ้นต่อสู้ถือว่าจำเลยที่ 1 ได้ยกอายุความขึ้นต่อสู้แล้วเช่นกันตาม ป.วิ.พ. มาตรา 59 (1) และข้อความจริงใดเมื่อเป็นเรื่องท้าวถึงตัวลูกหนี้ร่วมกันคนใดย่อมเป็นไปเพื่อคุณและโทษเฉพาะแต่ตัวลูกหนี้คนนั้นเท่านั้น ตาม ป.พ.พ. มาตรา 295 การที่จำเลยที่ 2 เพียงคนเดียวชำระหนี้แก่โจทก์ อายุความจึงสะดุดหยุดลงเฉพาะแก่จำเลยที่ 2 หามีผลถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกหนี้ร่วมไม่ หนี้ค่าจ้างว่าความงวดที่ 1 ในส่วนของจำเลยที่ 1 จึงต้องเริ่มนับแต่วันทำสัญญาจ้างซึ่งเป็นเวลาขณะที่โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไปตามมาตรา 193/12 เมื่อนับถึงวันที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้เป็นระยะเวลาเกินกว่า 2 ปีแล้ว ฟ้องโจทก์ตามสัญญาจ้างว่าความในงวดที่ 1 ในส่วนของจำเลยที่ 1 จึงขาดอายุความ

สำหรับค่าจ้างว่าความงวดที่ 2 กำหนดชำระเมื่อสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วเสร็จ และงวดที่ 3 กำหนดชำระหนี้ก่อนนัดฟังคำพิพากษา 15 วัน มิใช่หนี้ที่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้ตามวันแห่งปฏิทิน เมื่อโจทก์ว่าความให้แก่จำเลยทั้งสองแล้วเสร็จโดยตกลงกับคู่กรณีได้ ถือว่าหนี้ค่าจ้างว่าความงวดที่ 2 และงวดที่ 3 ถึงกำหนดชำระในวันดังกล่าว ตราบใดที่โจทก์ยังไม่เตือนให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้ จำเลยทั้งสองจึงยังไม่ได้ชื่อว่าผิดนัด เมื่อโจทก์มีหนังสือทวงถามไปยังจำเลยทั้งสองมีกำหนดเวลาให้นำเงินมาชำระหนี้ภายใน 7 วัน และจำเลยทั้งสองได้รับหนังสือทวงถามแล้ว แต่เมื่อครบกำหนด 7 วัน จำเลยทั้งสองไม่ชำระหนี้ถือว่าจำเลยทั้งสองตกเป็นผู้ผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้วตามมาตรา 204 วรรคหนึ่ง โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยผิดนัดสำหรับค่าจ้างว่าความในงวดที่ 2 และงวดที่ 3 ได้ในวันถัดจากวันครบกำหนดชำระหนี้ดังกล่าว

(หมายเหตุ 1 เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2560 จำเลยทั้งสองทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ให้เป็นทนายความดำเนินคดีเรื่องที่ดินที่จำเลยทั้งสองมีข้อพิพาทกับทายาทอื่น โดยตกลงค่าจ้างเป็นค่าว่าความ ค่าวิชาชีพทนายความ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี แบ่งชำระเป็น 3 งวด งวดที่ 1 ชำระเมื่อตกลงทำสัญญาจ้างว่าความให้ดำเนินคดี งวดที่ 2 ชำระเมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วเสร็จ งวดสุดท้ายชำระก่อนนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น 15 วัน

2 โจทก์ดำเนินการฟ้องร้องและดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลให้แก่จำเลยทั้งสองรวม 3 คดี คือ คดีแรก และคดีที่สาม อยู่ในระหว่างนัดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย คดีที่สอง โจทก์และจำเลยได้ทำการสืบพยานกันเสร็จสิ้นในวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 และศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 15 มิถุนายน 2561

3 วันที่ 22 พฤษภาคม 2561 คู่ความในคดีทั้งสามคดีสามารถตกลงกันได้ โดยคดีแรกและคดีที่สาม คู่ความตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลมีคำพิพากษาตามยอม ส่วนคดีที่สอง จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีดังกล่าวได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง ศาลมีคำสั่งอนุญาตและให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ

4 จำเลยชำระค่าจ้างว่าความบางส่วน โจทก์จึงมาฟ้องเป็นคดีนี้

5 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 2,880,263.94 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

6 ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 330,049 บาท พร้อมดอกเบี้ย

7 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีแรกและคดีที่สาม สำเร็จไปเพราะมีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลมีคำพิพากษาตามยอม ส่วนคดีที่สอง สำเร็จไปโดยจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีดังกล่าวยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง ศาลย่อมมีอำนาจพิจารณาอัตราค่าจ้างให้ตามสมควรแก่ผลแห่งการงานที่โจทก์ได้กระทำไป

8 โดยศาลฎีกามีคำวินิจฉัยข้างต้น โดยพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 ชำระเงิน 1,113,049 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย ให้จำเลยที่ 1 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2 ชำระให้แก่โจทก์จำนวน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย)

นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849